×

‘โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร’ เทปแรก สื่อสารอะไรถึงประชาชนบ้าง

โดย THE STANDARD TEAM
02.02.2025
  • LOADING...
โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร

ในที่สุดวันนี้ (2 กุมภาพันธ์) รายการโทรทัศน์ที่มีชื่อว่า โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร #EmpoweringThais ก็ได้ฤกษ์ออกอากาศเทปแรกแล้วทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT2HD โดยเป็นความตั้งใจของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะสื่อสารกับประชาชน 

 

สำหรับรายการนี้จะออกอากาศทุกวันอาทิตย์ต้นเดือนทุกเดือนนับจากนี้ ในเวลา 08.00-08.30 น. ผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT2HD และเครือข่ายวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ รวมถึงคลื่นวิทยุในส่วนราชการต่างๆ

 

นอกจากนี้ยังสามารถรับชมผ่านทางโซเชียลมีเดียได้ในทุกช่องทางของรัฐบาล ทั้งเว็บไซต์รัฐบาลไทยและสื่อโซเชียลไทยคู่ฟ้า ตลอดจนเว็บไซต์ของกรมประชาสัมพันธ์และประชาสัมพันธ์จังหวัดทั่วประเทศ

 

สำหรับรายการที่ออกอากาศในเทปแรกนี้ แพทองธารเริ่มต้นด้วยการขอเล่าให้ฟังแบบสบายๆ ก่อนว่าทำไมจึงจัดทำรายการนี้ขึ้นมา และทำไมอยากให้ประชาชนได้ฟังจากการอธิบายของตัวเอง

 

📍 ที่มาของรายการ

 

รายการนี้คิดกับทีมงานว่าอยากทำให้เป็นรายการพิเศษสำหรับประชาชน และเป็นรูปแบบของรายการที่ไม่ได้ทำที่ไหนมาก่อน ไม่เคยสัมภาษณ์แบบนี้ ไม่เคยพูดคุยแบบนี้ ถ้าใครได้รับชมรับฟังรายการนี้ถือว่าเอ็กซ์คลูซีฟมากๆ และเรื่องการทำงานของรัฐบาล การทำงานของนายกรัฐมนตรีเอง จะเอาเบื้องหลังมาเล่าให้ฟังว่าได้พบเจออะไรมาบ้าง ได้อธิบายที่มาที่ไปของนโยบายหรือขั้นตอนว่านโยบายแต่ละอันถึงไหนแล้ว อยากจะมาอัปเดตให้ฟังในรายการนี้ 

 

📍 30 บาทรักษาทุกที่ 77 จังหวัด

 

เรื่องแรก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศไทยแล้ว ดีใจมากๆ ที่ประชาชนไม่ต้องไปต่อคิวรอตั้งแต่เวลา 05.00 น. เพื่อเจอคุณหมอหรือรักษาแค่ 15 นาที ก็เสียดายเวลาทั้งวัน บางคนที่ทำงานวันต่อวันในเรื่องของค่าแรงก็ต้องเสียไปหนึ่งวันเต็มๆ ตอนนี้ได้การตอบรับกลับมาดีมากๆ ใครมีระบบตรงไหนที่ไม่ตอบสนอง ก็สามารถแจ้งมายังรัฐบาลได้ 

 

📍 วันเด็กปีแรกของนายกฯ

 

แพทองธารเล่าว่า วันเด็กปีนี้เป็นปีแรกที่มีโอกาสเจอเด็กๆ ทั่วประเทศ น้องๆ น่ารักมาก ต่อคิวถ่ายเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ซึ่งตนได้พูดถึงนโยบาย ODOS เป็นสิ่งที่ตัวเองคิดว่ามีประโยชน์อย่างมาก และคิดว่าอยากให้น้องๆ ทุกที่มีโอกาสได้เรียน ในทีมก็คุยกันว่าสมัยไทยรักไทยเคยทำเรื่อง 1 อำเภอ 1 ทุน จึงลองดูงบประมาณว่าจะสามารถขยายได้แค่ไหน

 

ซึ่งตอนเด็กมีโอกาสได้ไปซัมเมอร์แคมป์ เรารู้สึกจริงๆ ว่าเราไปและได้เห็นว่าไม่เหมือนประเทศไทย มองว่าเป็นโอกาส ซึ่งตนมองศักยภาพของน้องๆ มากกว่าที่เห็นตัวเอง คิดว่าน้องๆ ที่อยู่ประเทศไทยทำงานอย่างหนักตั้งแต่อายุยังน้อย ถ้ามีโอกาสได้ไปเรียนเมืองนอก เขาต้องสามารถเอาความรู้ตรงนั้นกลับไปทำอะไรได้อีกมากแน่นอน และไม่ได้อยากให้แค่เด็กตัวท็อปไป เด็กที่เรียนกลางๆ ตั้งใจเรียนแต่ไม่ได้เรียนท็อป ไม่มีโอกาสได้ไป ก็อยากให้ไปซัมเมอร์แคมป์ เพื่อไปเปิดโอกาสตัวเอง และไม่ใช่เสมอไปว่าคนที่เรียนสูงเท่านั้นที่จะสามารถพัฒนาองค์กรหรือประเทศได้ จึงอยากสร้างโอกาสให้เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นเบื้องหลังของที่มา จริงๆ แล้วการทำเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เห็นผลภายใน 1 ปี แต่เห็นผลแน่นอนในอนาคต ซึ่งถ้าเราไม่คิดไปถึงอนาคต 10-20 ปีมันก็จะไม่ทัน

 

📍 บ้านเพื่อคนไทย

 

แพทองธารยังกล่าวถึงโครงการบ้านเพื่อคนไทย ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก เราอยากให้คนที่มีศักยภาพในการทำงานมีกำลังใจ มีที่อยู่ มีความภูมิใจ ซึ่งรัฐบาลจะมีคนที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ง่ายๆ คือเรากลับบ้านที่เป็นของเรา เราจ่ายเงินมันได้ เพราะทำงานมีเงินเดือนและไม่ได้จ่ายแพงเกินไป เราจ่ายไหว นี่คือความภูมิใจที่ได้จ่ายที่อยู่แห่งนี้เองและออกไปทำงานอย่างสดชื่น รัฐบาลจะได้คนมีศักยภาพเพิ่มขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น แข็งแรงขึ้นทั้งกายและใจ นี่คือสิ่งที่เห็นภาพนี้ไว้ และคิดว่าบ้านเพื่อคนไทยเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ปัจจัย 4 ถ้าปัจจัย 4 เราไม่แน่นเราก็ไม่ไหว ทุกคนเป็นเหมือนกันหมดไม่ว่าจะยากดีมีจน

 

📍 สมรสเท่าเทียม ความภูมิใจของทุกคน

 

แพทองธารกล่าวต่ออีกว่า วันที่ 23 มกราคม 2568 เกิดสมรสเท่าเทียม ซึ่งดีใจมาก ตั้งแต่ก่อนเข้าการเมืองก็ทราบเรื่องนี้มาโดยตลอด ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งก็มีโอกาสคุยกับคนหลายกลุ่ม เรื่องนี้ทุกคนเห็นตรงกัน จากที่ตนเองอัดคลิปขอบคุณทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และ สว. มาหมด เพราะจริงๆ แล้วนี่เป็นการสร้างโอกาส สร้างความเท่าเทียม รัฐบาลสามารถใช้กฎหมายดูแลประชาชนทุกคนได้ นี่คือสิ่งที่ดีมากๆ และแรงที่ผลักดันทุกแรงสำคัญมาก ต่อสู้มา 20 กว่าปี ถ้าไม่ใช่ทุกแรง ไม่มีทางสำเร็จ เพราะฉะนั้นเป็นความภูมิใจของทุกคน

 

📍 ประชุมที่ดาวอสและฝุ่นข้ามแดน

 

แพทองธารยังกล่าวถึงการเดินทางร่วมประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ว่า พอไปถึงรู้สึกว่าจริงๆ แล้วปีหน้าก็จะไป เพราะรู้สึกว่าการมีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมันสามารถดึงความสนใจของคนได้จริงๆ และดีมากๆ รอบนี้มีรัฐมนตรีไปช่วยหลายคน จบลงได้ในที่ประชุม 4-5 วัน รู้สึกว่าดีมาก ปีหน้าจะไปอีกแน่นอนและไม่ไปคนเดียว จะเอารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปด้วย แต่ต้องวางธีมว่าปีหน้าจะโฟกัสเรื่องอะไร เป็นการหาเงินเข้าประเทศได้เยอะ และครั้งนี้ที่ทำสำเร็จไปคือ EFTA การเซ็นสัญญาการค้าเสรีทำให้เปิดโอกาสมาก ซึ่งเป็นโอกาสของคนไทย ของ SMEs ตนเชื่อศักยภาพของคนไทยมากๆ สิ่งที่สำคัญคือวันที่สองของการประชุมการจัด Thailand Reception ซึ่งอันนี้ต้องจองข้ามปี และ เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคนจองไว้ตั้งแต่ตอนนั้น โดยเศรษฐามองการณ์ไกล ซึ่งปีนี้ตนเองต้องมองต่อว่าจะเอาอะไรไปในปีหน้า 

 

ส่วนวันที่ 20-24 มกราคม ไปประชุม World Economic Forum ตอนนั้นดูข้อมูล GISTDA ว่าจะมีฝุ่นเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งเป็นห่วง จึงรีบเรียกทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาประชุมก่อนวันเดินทาง ซึ่งได้กำชับทุกกระทรวง อย่าลืมทำตามกฎทุกอย่างที่สร้างไว้อย่างเคร่งครัด และได้สั่งการทุกกระทรวง เน้นย้ำอะไรที่จะทำให้เกิดปัญหาฝุ่นมากขึ้น ก็ให้ทำมาตรการที่จะลดนั้นให้เข้มข้น จะได้บรรเทาเรื่องฝุ่นมากที่สุด 

 

แต่แน่นอนว่าเมื่อฝุ่นเข้ามาทุกคนเกิดอาการไม่แฮปปี้ ตัวเองก็ไม่แฮปปี้เพราะลูกเล็ก 2 คนอยู่บ้าน หลานๆ อีกเต็มบ้าน ไปโรงเรียนไม่ได้ก็ต้องหยุดเรียน รัฐบาลทุกกระทรวงเต็มที่ ทำทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนใบอ้อยให้มีมูลค่ามากขึ้น จะได้ไม่ต้องเผาจูงใจให้เกษตรกรได้มีสิทธิ์นำใบอ้อยไปขาย, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่บอกกับเกษตรกรว่าไม่เผา มีเครื่องไถกลบ, กระทรวงคมนาคมที่ออกนโยบายให้ใช้รถไฟฟ้าฟรีในกรุงเทพมหานคร สามารถลดจำนวนของรถยนต์ได้ 5 แสนคันต่อวัน และลดควันได้เยอะ ซึ่งตนเองเช็กกับ GISTDA ตลอดว่าตรงฮอตสปอตเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งฝุ่นข้างบนลดน้อยลงอย่างมาก 

 

อันนี้เป็นสิ่งที่ในประเทศเริ่มทำตั้งแต่ตัวเองรับตำแหน่ง และมีการพูดว่าปัญหาที่มาแน่ๆ คือฝุ่น ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมการตั้งแต่ตอนนั้น เรื่องของฝุ่น PM2.5 มันไม่ใช่แค่วาระของประเทศ ไม่ใช่วาระแห่งชาติ แต่เป็นวาระแห่งอาเซียน เพราะเราจะต้องร่วมมือกัน เรื่องของระหว่างประเทศอยากบอกประชาชนว่า การที่ติดต่อระหว่างประเทศ ติดต่ออย่างเป็นทางการ เราต้องมีลำดับขั้น ตอนนี้รัฐมนตรีต่างประเทศคุยกันทุกๆ รัฐมนตรีอาเซียน เพื่อขอความร่วมมือในเรื่องนี้

 

📍 แจกเงินหมื่นเฟส 2

 

แพทองธารยังกล่าวถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 แจกเงิน 10,000 บาทให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 3 ล้านคน 3 หมื่นล้านบาท ว่า ทุกครั้งที่เห็นผู้รับประโยชน์จากนโยบายนี้ก็รู้สึกดีใจมากๆ ซึ่งวันที่ Kick Off มีการหันไปพูดกับรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยทั้งสองท่านว่าอย่าลืมภูมิใจในตัวเองด้วยที่ผลักดันนโยบายนี้สำเร็จ แต่นโยบายนี้พรรคเพื่อไทยดันเรื่องนี้มาตลอด และสุดท้ายคนที่ทำงานเรื่องงบประมาณเป็นกระทรวงการคลัง นอกจากนี้แพทองธารยังยืนยันด้วยว่าเฟส 3 มาแน่นอน แต่กี่โมงต้องรอกระทรวงการคลังแถลงฤกษ์งามยามดี อยู่ที่คลัง

 

📍 อาชญากรรมไซเบอร์

 

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติ พ.ร.ก.อาชญากรรมไซเบอร์ แพทองธารกล่าวว่า เรื่องนี้จริงจังมาก และอาเซียนทั้งหมดก็เห็นเรื่องนี้สำคัญมาก จริงๆ แล้วมีสิทธิ์ในการจับคนที่มาตั้งเสาอากาศหรือมาดักในเขตแดน เพื่อจะดึงสัญญาณมือถือของคนไทยเอาไปทำบัญชีม้า เราตั้ง พ.ร.ก. นี้ขึ้นมาเพื่อเคลียร์เรื่องนี้ให้หมด มีบทลงโทษทั้งหมด เรื่องนี้รอไม่ได้ มีคนหมดตัวกับเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่จำเป็นและเร่งด่วนมาก จึงคุยกันใน ครม. และออกเป็น พ.ร.ก.

 

พ.ร.ก. นี้จะทำให้ธนาคารและเจ้าของกิจการมือถือมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ เพื่อตัดวงจรเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด เพราะเป็นเรื่องจำเป็นมาก 

 

📍 เผยความรู้สึกส่งท้าย


แพทองธารกล่าวว่า ถ้าถามว่าอะไรเป็นกำลังใจของนายกฯ ในทุกๆ วัน ก็ต้องบอกว่ามีหัวใจ ถ้าโดนว่าหรืออะไร เสียใจแน่นอน รู้สึกแน่นอน แต่จมไม่ได้ เพราะงานรออยู่เยอะมาก จริงๆ แล้วพยายามมองหัวข้อไหนที่เขาว่า เช่น ประชาชนไม่พอใจการจัดการเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็จะเรียกรัฐมนตรีกระทรวงคุย 

 

แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น เช่น เสื้อผ้า หน้า ผม การแต่งตัวที่ถูกบูลลี่มาโดยตลอด ก็ไม่ได้คิดอะไร และเวลาที่นโยบายต่างๆ ทำสำเร็จ ถามว่าความภูมิใจในความสำเร็จมันเป็นอย่างไร 

 

“ความภูมิใจของตัวดิฉันคือประชาชน ประชาชนที่มีความสุขมากกับนโยบายที่ได้ไป มันเติมเต็ม และมันรู้สึกว่าฉันก็จะแต่งตัวแบบนี้ ไปทำงานแบบนี้ให้ประชาชนมีความสุข ก็นี่เป็นฉัน”

 

ทั้งนี้ ก่อนจบรายการนายกรัฐมนตรีระบุว่า 

 

“หวังว่าประชาชนคงจะได้ยิน ได้ฟังอะไรที่เป็นความรู้หรือเป็นแรงบันดาลใจ หรือเป็นความสนุกสนานจากรายการนี้ โดยดิฉันเองหวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย และเดือนหน้าพบกันใหม่ จะเล่าให้ฟังเรื่องของเดือนที่ผ่านมาว่าทำอะไรไปบ้าง หวังว่าจะเข้าใจ ส่งใจถึงใจมากยิ่งขึ้นว่าใจของนายกรัฐมนตรีจริงๆ คิดอะไรให้กับประชาชนบ้างและอยากเล่าอะไรให้ประชาชนฟังบ้าง ฝากติดตามนักจัดรายการมือใหม่ ขอฝากตัวค่ะ”

 
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising