วันนี้ (30 สิงหาคม) ที่จังหวัดสุโขทัย แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า รัฐบาลที่ดีที่จะช่วยเหลือประชาชนได้นั้น เสถียรภาพเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อพรรคเพื่อไทยไม่ได้เชิญพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วม การแก้กฎหมายต่างๆ ต้องมีเสียงมากพอ ไม่เช่นนั้นการแก้กฎหมายช่วยเหลือประชาชนอาจสะดุดได้
แพทองธารกล่าวต่อว่า วันนี้ฝ่ายบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนในหลายทศวรรษที่ผ่านมา การที่เราร่วมรัฐบาลกันไม่ได้แปลว่าพรรคเพื่อไทยยอมรับการกระทำของผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะมาก เราต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ การได้เสียงของพรรคประชาธิปัตย์คือปัจจัยที่ทำให้เรามีเสียงมากพอ
เมื่อสื่อมวลชนถามว่า คนเสื้อแดงไม่ค่อยเห็นด้วยที่พรรคเพื่อไทยร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ แพทองธารชี้มือมาที่ตัวเองแล้วพูดว่า “นี่คือคนเสื้อแดง”
แพทองธารกล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องแก้ไขปัญหาให้ประชาชนให้ได้ และผลักดันนโยบายต่างๆ ให้สำเร็จ นี่คือความตั้งใจ เราทำนโยบายสำเร็จมาเยอะ ในเรื่องของการเมือง ยังมีส่วนหนึ่งที่เราต้องทำให้มีเสถียรภาพให้ได้
“ผ่านมาแล้ว 10-20 ปี หลายอย่างเปลี่ยนไป ผู้บริหารก็เปลี่ยนไป แม้ชื่อจะยังเป็นประชาธิปัตย์เหมือนเดิม แต่หลายอย่างในนั้นเปลี่ยนไปมาก คิดว่าเราต้องเดินหน้าต่อไป ถ้าเรามัวแต่คิดเรื่องการเมืองกันต่อก็จะถ่วงหลังประเทศ และการฟ้องร้องอะไรต่างๆ ที่เป็นเรื่องเล็กๆ มากมาย มันไม่จำเป็นสำหรับการบริหารประเทศ” แพทองธารกล่าว
ส่วนจะบอกคนเสื้อแดงที่เห็นต่างอย่างไร แพทองธารกล่าวว่า ในฐานะนายกฯ ขอสัญญาว่าจะเป็นนายกฯ ของคนไทยทุกคน นี่คือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น ตนเองมาอยู่ตรงนี้จะทำเพื่อประชาชนทุกคน และเข้าใจความรู้สึกของคนเสื้อแดงดี เรื่องเสื้อแดงจะพูดไม่ได้เลยว่าไม่เข้าใจ เพราะตนเองเข้าใจ แต่วันนี้เราพร้อมหรือยังที่จะก้าวไปข้างหน้า เห็นประเทศชาติดีขึ้นเตรียมไว้ให้ลูกหลาน วันนี้เราต้องเป็นผู้ใหญ่ที่พร้อมด้วย นี่คือสิ่งสำคัญ
แพทองธารยังเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคประชาธิปัตย์ว่า เหมือนประเทศที่เป็นเผด็จการมา เราไม่ซื้อขายด้วย แต่วันหนึ่งเมื่อเขาเปลี่ยนเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เราก็ซื้อขายกับเขาต่อ เป็นการมองไปข้างหน้า มองไปที่อนาคต ลักษณะจะเป็นเช่นนั้น เราจึงต้องให้ความสำคัญตรงจุดนั้น อยากขอให้สื่อให้กำลังใจและผลักดันประเทศไปพร้อมกัน อย่าให้ความสำคัญกับอะไรที่ไม่สำคัญ อย่าให้ความสำคัญกับการฟ้องร้องที่ไม่สำคัญ หรือประเด็นอะไรที่ไม่สำคัญ ขอให้ช่วยกันเพราะหน้าที่ตรงนี้หนักและไม่ง่าย ต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย
มีหลายเหตุผลที่ไม่ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ
สำหรับกรณีที่พรรคพลังประชารัฐเตรียมยื่นฟ้องนายกฯ ต่อองค์กรอิสระ แพทองธารกล่าวว่า เราคงห้ามเขาไม่ได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในพรรคพลังประชารัฐก็ให้เป็นปัญหาของเขา และตนไม่ได้มีส่วนตัดสินใจ
ส่วนเหตุผลที่ไม่เอาพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาลเป็นเพราะ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ใช่หรือไม่ แพทองธารกล่าวว่า มีเหตุผลหลายอย่างที่ไม่สามารถร่วมงานกันได้
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมาเปิดเผยว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครอบงำพรรคร่วมรัฐบาล แพทองธารกล่าวติดตลกว่า “อาจจะเป็นดิฉันมากกว่าที่ครอบงำคุณทักษิณ ข้อเท็จจริงคือคุณทักษิณไม่ได้ครอบงำ การปรึกษากันคือเรื่องธรรมดา แต่ถ้าหากจะหาเรื่องกันเช่นนั้น มันก็เป็นอย่างนั้น แต่ความจริงไม่มีการครอบงำอะไร ทุกคนมีตัวตน มีความคิดเป็นของตัวเอง มีคำปรึกษาจากทุกคนที่สามารถช่วยกันทำงานให้ประเทศต่อ ก็แค่นั้นเอง”
คณะรัฐมนตรีนิ่งแล้ว เหลือแค่สอบประวัติ
แพทองธารระบุถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลว่า ค่อนข้างลงตัวและนิ่งแล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบคุณสมบัติ ส่วนจะเสร็จเมื่อไรนั้น คิดว่าใกล้แล้ว เพราะตรวจมาประมาณหนึ่งสัปดาห์แล้ว
ส่วนสัปดาห์หน้าจะยื่นทูลเกล้าฯ ได้เลยหรือไม่นั้น แพทองธารกล่าวว่า หากฝ่ายที่ตรวจสอบตอบกลับมาแล้วรายชื่อลงตัว เราก็จะทำโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่เช่นนั้นการทำงานจะติดปัญหาต่างๆ เช่น การลงพื้นที่วันนี้ก็ติดเรื่องที่เป็นรัฐบาลที่ยังไม่ได้แถลงนโยบาย เราจะได้บอกประชาชนได้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ขณะที่การเตรียมนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาใกล้เสร็จแล้ว
