วันนี้ (3 มิถุนายน) พล.อ.ต. บุญเลิศ อันดารา โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า กองทัพอากาศได้สนับสนุนอากาศยานในภารกิจรับ เชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงยุติธรรมได้ขอรับการสนับสนุน ซึ่งกองทัพอากาศได้พิจารณาแล้วว่าอากาศยานที่มีความเหมาะสมในภารกิจครั้งนี้คือ C-130
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ทั้งนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดเตรียมแผนไว้ 2 แผนคือ ในวันที่ 4 มิถุนายน เครื่องบิน C-130 จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง ในช่วงเช้า ไปยังฐานทัพอากาศฮาลิม อินโดนีเซีย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
จากนั้นทำภารกิจภาคพื้นประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนเดินทางออกจากฐานทัพอากาศฮาลิม ตรงไปยังสนามบินนครศรีธรรมราช ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
เมื่อมาถึงสนามบินนครศรีธรรมราชจะใช้เวลาดำเนินการในกระบวนการประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นจะบินกลับมาที่กรุงเทพฯ ทันที รวมระยะเวลาตั้งแต่ที่อินโดนีเซียมาถึงสนามบินนครศรีธรรมราชประมาณ 12 ชั่วโมง
ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ของไทยร่วมคณะเดินทางประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากสถาบันเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศ, ฝ่ายเสนาธิการ, ตำรวจคอมมานโด รวมไปถึงหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวมผู้ปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ต้องหาในครั้งนี้กว่า 40 คน
สำหรับแผนที่ 2 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียเป็นผู้ควบคุมตัวแป้ง นาโหนดมาส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่สนามบินนครศรีธรรมราช ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานของผู้ที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของกองทัพอากาศนั้นมีความพร้อมและสามารถปฏิบัติงานได้ทันทีเมื่อได้รับคำสั่ง
พล.อ.ต. บุญเลิศ กล่าวอีกว่า กรณีที่มีข่าวเผยแพร่ออกไปว่าจะใช้ Airbus 320 ของกองทัพอากาศ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการพิจารณาแล้ว ทั้งในเรื่องของความสะดวกสบายของเจ้าหน้าที่และค่าใช้จ่าย พบว่าเครื่องบิน C-130 มีความเหมาะสมกว่า ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย การดำเนินการ ความรอบคอบรัดกุม รวมถึงมีสภาพดีกว่า