วันนี้ (21 สิงหาคม) ที่รัฐสภา ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กล่าวถึงกรณีที่ ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบการใช้งบรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ในการเลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านรัฐสภา 370 คน อาจเข้าข่ายการกระทำขัดกันแห่งผลประโยชน์ว่า เรื่องนี้มันเถียงกันจบแล้ว แต่ก็มองว่าศรีสุวรรณมีสิทธิ์ร้อง และนักการเมืองทุกคน ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นก็ให้ว่ากันไป แต่ส่วนตัวไม่กังวลว่าเรื่องนี้จะกระทบต่อตำแหน่งรองประธานสภา และเป็นที่ชัดเจนด้วยว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นคำถามใหญ่ขององค์กรและหน่วยงานต่างๆ อีกมาก ตนขอยืนยันว่าแม่บ้านและพ่อบ้านรัฐสภาทุกคนเป็นแขก
ส่วนที่หลายคนมองว่าเป็นการใช้งบประมาณรัฐเพื่อเรียกคะแนนเสียงให้กับตัวเองนั้น ปดิพัทธ์ถามกลับว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเลือกตั้งเหรอ ใช้กติกาของการหาเสียงเลือกตั้งใช่หรือไม่ นักการเมืองหลายคนก็เลี้ยงข้าวคนเยอะไปหมด และตนก็ไม่ได้จัดงานในลักษณะที่แสดงออกว่าเป็นพรรคการเมือง จึงไม่ต้องกังวลในข้อกฎหมายนี้ ทุกอย่างเป็นการดำเนินการตามระเบียบราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประธานกรรมาธิการหลายคนก็มีงบประมาณในการรับรอง ข้าราชการระดับสูงบางคนก็มี ซึ่งแต่ละองค์กรมีระบบเบิกจ่ายที่ไม่เหมือนกัน ตามระเบียบของแต่ละองค์กร แต่ส่วนตัวในการเลี้ยงข้าวแม่บ้านได้วางแผนมาเป็นเดือนแล้ว ไม่ใช่เมื่อเช้าอยากกินแล้วตอนเย็นมากินกัน
ส่วนที่มีการเรียกร้องให้มีการเปิดเผยงบในการจัดเลี้ยงรับรองตั้งแต่อดีตว่ามีการใช้อย่างไรนั้น ปดิพัทธ์กล่าวว่า ตนคงไม่ไปก้าวล่วงคนอื่น คิดว่าแต่ละท่านคงมีวุฒิภาวะและวิจารณญาณในการใช้งบประมาณอยู่แล้ว แต่ประชาชนก็มีสิทธิ์ตั้งคำถามว่าเขามีงบประมาณเท่าไร มีการใช้จ่ายอย่างไร มีแนวทางในการควบคุมอย่างไรในเรื่องของความโปร่งใส ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ พร้อมยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ประธานรัฐสภายังไม่มีการสอบถามในประเด็นนี้มาที่ตน
ด้าน เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส. กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล กล่าวในประเด็นนี้ว่า หากสังคมยังสงสัยและอยากรู้เกี่ยวกับงบรับรองของประธานและรองประธานสภา รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ตนจะจัดให้ จะไปไล่งบดู น่าจะมีเด็ดๆ เยอะกว่านี้ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณที่มีการตรวจสอบพรรคก้าวไกล
“ถ้าทุกหน่วยงานสนใจตรวจสอบการทำงานของข้าราชการและนักการเมืองให้ได้เหมือนอย่างตรวจสอบพรรคก้าวไกล ประเทศไทยคงเจริญไปนานแล้ว” เท่าพิภพกล่าว