10 ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก ปฏิเสธความพยายามของจีนในการผลักดันสนธิสัญญาความมั่นคงระดับภูมิภาค ภายหลังไม่สามารถบรรลุฉันทามติในการประชุมร่วมกันผ่านระบบ Virtual เมื่อวานนี้ (30 พฤษภาคม) พร้อมแสดงความกังวลต่อข้อเสนอสนธิสัญญาดังกล่าวว่าออกแบบมาเพื่อดึงประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกเข้าสู่วงโคจรภายใต้อิทธิพลจีน ซึ่งอาจคุกคามเสถียรภาพในภูมิภาค
โดยผู้นำ 10 ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก ได้ร่วมหารือกับ หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ที่อยู่ระหว่างการเยือนฟิจิ ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งพยายามสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับเป้าหมายของจีนในการสนับสนุนและช่วยพัฒนาภูมิภาค และชี้ว่า จีนได้ให้การสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาในทวีปเอเชีย แอฟริกา และแถบทะเลแคริบเบียนมาอย่างยาวนาน
“อย่าวิตกเกินไปและอย่ากังวลจนเกินไป เพราะการพัฒนาร่วมกันและความเจริญรุ่งเรืองของจีนและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ทั้งหมด จะหมายถึงความปรองดองที่ยิ่งใหญ่ ความยุติธรรมที่มากขึ้นและความก้าวหน้าที่มากขึ้นของโลกทั้งใบนี้เท่านั้น” หวังกล่าว
ขณะที่ เดวิด ปานูเอโล ประธานาธิบดีแห่งไมโครนีเชีย ได้ส่งหนังสือถึงเพื่อนผู้นำประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก โดยเตือนถึงข้อเสนอดังกล่าวว่า ‘มีเลศนัย’ และหวั่นวิตกว่าอาจเป็นการรับรองอิทธิพลของจีนในภูมิภาค ตลอดจนเปิดทางให้จีนสามารถควบคุมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่สำคัญในประเทศแปซิฟิกด้วย
สำหรับสนธิสัญญาความมั่นคงดังกล่าว จะเปิดทางให้จีนสามารถเพิ่มกิจกรรมและการดำเนินการต่างๆ ในภูมิภาคแปซิฟิกตอนใต้ได้มากขึ้น เช่น การช่วยฝึกฝนตำรวจและการมีส่วนร่วมด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ ตลอดจนการขยายความสัมพันธ์ทางการเมือง การทำแผนที่ทางทะเล และการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและในน้ำ
ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของจีนยังถือเป็นการท้าทายอิทธิพลของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคนี้
ภาพ: Photo by LEON LORD / AFP
อ้างอิง:
