วันนี้ (21 ตุลาคม) คณะและองค์กรนักเรียนไทยในมหาวิทยาลัยใน 21 ประเทศและดินแดน ในนามกลุ่มแนวร่วมนักเรียนไทยในต่างประเทศผู้มีความเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมือง ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้อง โดยมีรายละเอียดระบุว่า
คณะและองค์กรนักเรียนไทยและนักเรียนไทยในมหาวิทยาลัยใน 21 ประเทศและดินแดน ในนามกลุ่มแนวร่วมนักเรียนไทยในต่างประเทศผู้มีความเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมือง ด้วยจํานวนผู้ลงนามมากกว่า 996 รายชื่อ ขอประณามการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 โดยพวกเราคัดค้านการใช้อํานาจในการจับกุมคุมขังแกนนําการประท้วงและผู้สื่อข่าวโดยไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมที่เหมาะสม การปิดกั้นช่องทางสื่อ และการสั่งห้ามชุมนุม
อนึ่ง การสลายการชุมนุมในวันที่ 16 ตุลาคม ด้วยปืนฉีดน้ําแรงดันสูง สารเคมีผสมสีและแก๊สน้ําตา เป็นการกระทําที่เกินสมควรแก่เหตุ เนื่องจากผู้ชุมนุมส่วนใหญ่กระทําการชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ ไม่ได้ก่อเหตุร้ายหรือก่อจลาจล จึงเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 รวมทั้งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งประเทศไทยได้ให้สัตยาบันต่อกติการะหว่างประเทศทั้งสองฉบับนี้ไว้
พวกเรามีความกังวลต่อการที่รัฐบาลพยายามทําให้ผู้ชุมนุมเป็นเสมือนผู้ใช้ความรุนแรง การตีความว่าความเห็นต่างคือความรุนแรงในครั้งนี้ได้สื่อให้เห็นว่ารัฐบาลไม่เพียงแต่กําลังกีดกั้นสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมทางการเมือง แต่กําลังละเมิดสิทธิในการแสดงความคิดเห็น อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนอันละเมิดไม่ได้
พวกเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกเลิกการใช้พระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครโดยทันที เนื่องจากไม่มีเหตุอันจําเป็นอีกต่อไป ประเทศไทยประสบความสําเร็จในการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด -19 และการชุมนุมของประชาชนมิได้ก่อความรุนแรงหรือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติแต่อย่างใด
พวกเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเคารพสิทธิในการชุมนุมโดยสันติวิธีของประชาชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมในกรณีใดๆ ต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่ชอบด้วยกฎหมายทั้งหมด
นอกจากนี้ พวกเราประสงค์ให้ตํารวจ เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคารพสิทธิของผู้ถูกควบคุมตัวตามกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงสิทธิในการมีทนายความและการเข้าเยี่ยมผู้ถูกควบคุมตัว
ท้ายที่สุดนี้พวกเราขอให้รัฐบาลไทยให้เกียรติวิถีแห่งประชาธิปไตยและนิติธรรม ตลอดจนการใช้รัฐสภาอันเป็นช่องทางในการอภิปรายสาธารณะต่างๆ รวมถึงการอภิปรายอันเกี่ยวเนื่องกับการยื่นข้อเสนอการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
การแสดงความเห็นต่างไม่ใช่การกบฏ การแสวงหาอิสรภาพและความเท่าเทียมมิใช่ความผิด และการแสดงออกทางความคิด ต้องไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป
โดยแถลงการณ์ฉบับนี้มีผู้ร่วมลงรายชื่อกว่า 996 รายชื่อแล้ว และยังมีรายชื่อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์