จากข้อมูลของ CryptoQuant แพลตฟอร์มด้านข้อมูล เผยว่า Bitcoin กว่า 50% ที่ถูกเก็บไว้บนแพลตฟอร์มคริปโตของสหรัฐฯ ถูกโอนออกไปเก็บบนแพลตฟอร์มของประเทศอื่นนอกสหรัฐฯ (ประเภท Offshores กับ International Exchange) ท่ามกลางภาวะการกำกับดูแลที่เข้มข้นขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
จากข้อมูลยังเผยอีกว่า Bitcoin ที่ถูกเก็บไว้บนแพลตฟอร์มของสหรัฐฯ มีสัดส่วนทางการตลาดลดลงมาถึงจุดที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2017 จากการเสียส่วนแบ่งให้กับแพลตฟอร์มคริปโตนอกประเทศ
ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทคริปโตสหรัฐฯ ยังโดนระงับในการให้บริการหลายๆ ผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้า เนื่องจากการเสนอบริการและผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเป็นการละเมิดกฎหมายสหรัฐฯ
ทำให้ปริมาณการเทรดคริปโตบนแพลตฟอร์มนอกสหรัฐฯ มีมูลค่าสูงกว่า 4 เท่าของปริมาณที่เกิดบนแพลตฟอร์มสหรัฐฯ
ในขณะที่ปริมาณการเทรด Spot และ Futures ในแถบเอเชีย มีการเติบโตถึงกว่า 30% และ 20% ตามลำดับ
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นผลจากฝ่ายกำกับดูแลของสหรัฐฯ ไม่มีกรอบทางกฎหมายที่ชัดเจนต่อสินทรัพย์อย่างสินทรัพย์ดิจิทัล ต่างจากประเทศอย่างฮ่องกงหรือกลุ่มสหภาพยุโรปที่มีกรอบทางกฎหมายที่ชัดเจนกว่า
ส่งผลให้ทั้งเงินทุน บุคคลที่มีความสามารถ และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล ไหลเข้าสู่ประเทศเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะที่สินทรัพย์อย่าง Ethereum ก็มีการไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง จน 56% ของ Ethereum ถูกถือครองจากแพลตฟอร์มนอกสหรัฐฯ เช่นเดียวกับ Bitcoin
แม้ในตอนนี้สหรัฐฯ จะยังเป็นประเทศที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดในการขุด Bitcoin เป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ในด้านการเติบโตของบริษัทและการนำคริปโตมาใช้ในประเทศ กลับเสียส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับแพลตฟอร์มของประเทศอื่นอย่างต่อเนื่อง จากการกำกับดูแลที่ไม่ชัดเจนและเข้มงวด
อ้างอิง: