ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ หรือ OTO วันนี้ (19 มิถุนายน) ราคาหุ้นปรับตัวลดลงในแดนลบทันทีที่เปิดการซื้อ-ขายช่วงเช้า และเหวี่ยงตัวอย่างมากในช่วง 30 นาทีแรก จากนั้นราคาหุ้นค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น และปิดการซื้อ-ขายในการซื้อภาคเช้าที่ 3.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.44 บาท หรือ 16.42% มูลค่าการซื้อ-ขาย 976.41 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-16 มิถุนายน) ราคาหุ้น OTO ปรับตัวลดลงติดฟลอร์อย่างต่อเนื่องทุกวัน จนเป็นเหตุให้บริษัทเรียกประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เป็นกรณีเร่งด่วน ซึ่งจากการประชุมเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ฝ่ายบริหารได้ชี้แจงสถานะทางการเงินของบริษัทว่า บริษัทยังคงมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีสภาพคล่องสูง มิได้เป็นไปตามที่ปรากฏในสื่อต่างๆ แต่อย่างใด
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังมีมติให้บริษัททำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอตรวจสอบรายการซื้อ-ขายหุ้นที่มีลักษณะผิดปกติในช่วงตั้งแต่วันที่ 12-16 มิถุนายน 2566 ที่ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทลดลงเป็นอย่างมาก และอาจส่งผลกระทบต่อแผนการระดมทุนของบริษัทจากการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement: PP) ให้แก่นักลงทุนจำนวน 4 ราย จำนวน 50 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 16 บาท ทำให้ไม่เป็นไปตามแผนการระดมทุนของบริษัท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ล่าสุด คณาวุฒิ วรรทนธีรัช ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ได้มีการทำหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อขอให้ตรวจสอบสาเหตุการเปลี่ยนแปลงราคาหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เนื่องด้วยระหว่างวันที่ 12-16 มิถุนายน 2566 ราคาหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เกิดการปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องมีความกังวลกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงทำให้เกิดการคาดเดาถึงสาเหตุที่ราคาหลักทรัพย์ของบริษัทฯ มีการปรับตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วงระยะเวลาอันสั้นที่ผ่านมา ซึ่งอาจสร้างความเสียหายและบั่นทอนความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ
ในการนี้เพื่อเป็นการป้องกันข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและข่าวสารที่สื่อสารไปยังผู้ถือหุ้น นักลงทุน รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และเพื่อตรวจสอบความผิดปกติของการซื้อ-ขายหุ้นของบริษัทฯ รวมถึงการสืบหาข้อเท็จจริงและสาเหตุของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทฯ จึงมีความประสงค์ขอความอนุเคราะห์จากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการสนับสนุนในการตรวจสอบรายละเอียดธุรกรรมการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ระหว่างวันที่ 12-16 มิถุนายน 2566 ดังกล่าว
พร้อมกันนี้ยังได้ทำหนังสือแจ้งการตรวจสอบสาเหตุการเปลี่ยนแปลงราคาหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ด้วย โดยระบุว่า บริษัทฯ ได้ส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ในช่วงระยะเวลา ระหว่างวันที่ 12-16 มิถุนายน 2566 แล้ว
สำหรับแผนการเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง 4 ราย ซึ่งได้แก่
- Greentech Fund ภายใต้ CAI Optimum Fund VCC จำนวน 20 ล้านหุ้น
- ยศวีย์ วัฒนธีระกิจจา จำนวน 20 ล้านหุ้น
- นพพร วิฑูรชาติ จำนวน 5 ล้านหุ้น
- รฐา วีระพงษ์ จำนวน 5 ล้านหุ้น
THE STANDARD WEALTH ได้สืบค้นข้อมูลด้านการลงทุน พบว่า ยศวีย์ วัฒนธีระกิจจา เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ บมจ.ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย (24CS) ขณะที่ นพพร วิฑูรชาติ เป็นผู้บริหารของ บมจ.สยามฟิวเจอร์ดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งเคยเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนที่กลุ่มเซ็นทรัลจะเข้ามาซื้อกิจการและนำออกจากตลาดไป
และเมื่อเทียบกับที่ OTO กำหนดราคาขายหุ้นเพิ่มทุนที่ 16 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 800 ล้านบาท แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาหุ้นของ OTO ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องกว่า 80% มาเหลือเพียง 2.68 บาท จึงเกิดคำถามตามมาว่า นักลงทุนทั้ง 4 รายข้างต้นจะยอมใส่เงินลงทุนเข้ามาตามความตั้งใจเดิมหรือไม่