วันนี้ (6 มิถุนายน) ที่อาคารรัฐสภา สุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดมหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านถึงการพิจารณาขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันนี้ว่า เป็นการให้พรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมกันเสนอญัตติส่วนตัว ว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีคนใดในข้อหาใด เพื่อรวบรวมเขียนเป็นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นญัตติเดียว
ซึ่งขณะนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านเกือบทุกพรรคมีความพร้อมที่จะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว เหลือเพียงบางพรรคที่ขอเวลาอีกเพียงเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าแล้ว 90% เหลือเพียง 10% ในการประชุมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะแถลงสรุปญัตติการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ในวันที่ 8 มิถุนายน เพื่อเตรียมยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 15 มิถุนายนนี้
สุทินกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีกี่คน แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะเน้นอภิปรายพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรี และกระทรวงหลักๆ เช่น กระทรวงการคลัง, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น
สุทินยังกล่าวถึงจำนวนรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ว่า จะน้อยกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา คาดว่าจะอยู่ที่ 5-6 คน และสำหรับข้อกล่าวหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะอยู่ใน 5 กลุ่มข้อกล่าวว่า ประกอบด้วย
- ความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน
- การทุจริตและการหาผลประโยชน์เอื้อต่อตนเองและพวกพ้อง
- การกระทำผิดต่อกฎหมาย
- ขัดต่อจริยธรรมการเป็นนักการเมือง
- การไม่ทำต่อนโยบายที่แถลงไว้กับรัฐสภา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความคาดหวังว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะสามารถล้มรัฐบาลได้หรือไม่ สุทินกล่าวว่า ไม่คาดหวังมือในสภา และคาดว่าการลงมติอภิปรายในครั้งนี้จะมีทั้งขาไปและขามา เช่น ขาไปคนของพรรคเพื่อไทยอาจจะไปลงมติกับทางรัฐบาลบ้าง และขามาคือคนของฝ่ายรัฐบาลอาจจะมาเติมกับพรรคฝ่ายค้านบ้าง
“วิธีการทำงานของฝ่ายค้านครั้งนี้ไม่หวังพึ่งใคร คิดว่าตัวเราเองต้องยืนแน่นๆ อภิปรายให้ดีมีคุณภาพ ส.ส. และประชาชนอาจเห็นด้วยกับเรา เพราะเชื่อมั่นในข้อมูลของเรา”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมี ส.ส. จากพรรคเศรษฐกิจไทยเข้าร่วมหรือไม่ สุทินกล่าวว่า ในเรื่องนี้ยังไม่แน่ใจ แต่ก่อนหน้านี้เคยมีความคิดที่ตรงกัน แต่จะถึงขั้นลงมือปฏิบัติการหรือไม่ ทางพรรคเศรษฐกิจไทยอาจจะมีหลายเรื่องหลายปัจจัย ซึ่งจะมีการประสานงานไปยังพรรคเศรษฐกิจไทยหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น