วันนี้ (18 กรกฎาคม) พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้าน สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ร่วมแถลงข่าวความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันที่ 19-22 กรกฎาคมนี้
สุทินกล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้ พรรคฝ่ายค้านจะจัดเต็มทั้ง 4 วัน แบ่งอภิปรายรัฐมนตรีเป็นกลุ่มๆ วันแรกของการอภิปรายนั้นจะอภิปรายกลุ่มของรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย เปิดฉากเริ่มที่ อนุทิน ชาญวีรกูล ตามด้วย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ จากนั้นจะกระโดดไปที่รัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ คือ สุชาติ ชมกลิ่น และสลับไปที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จบที่ จุติ ไกรฤกษ์
ส่วนวันที่สองเริ่มจาก นิพนธ์ บุญญามณี ต่อด้วย สันติ พร้อมพัฒน์, พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก่อนจะเข้าสู่การอภิปรายชุดพี่น้อง 3 ป. ที่จะให้เห็นถึงวีรกรรมเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง และคาดว่าเริ่มอภิปราย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ในช่วงค่ำของวันที่สอง โดยฝ่ายค้านจะจัดหนักถึง 30 ชั่วโมง พร้อมย้ำว่า ‘ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน’ ครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนได้เห็นความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน ส่งท้ายก่อนที่จะหมดวาระของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์
สำหรับกรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจตลอด 4 วัน รัฐบาลจะได้เวลา 18 ชั่วโมง ซึ่งรวมประธานและคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว ส่วนฝ่ายค้านได้เวลาเต็มที่ 45 ชั่วโมง ซึ่งเวลาทั้งหมดนี้พรรคร่วมรัฐบาลได้จัดสรรให้กับฝ่ายค้านแล้วตามความเหมาะสม จะไม่มีการมาต่อรองหรือขอเวลาเพิ่ม ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะมีผู้อภิปราย 27 คน ก้าวไกล 14 คน ประชาชาติ 3 คน สรีรวมไทย 2 คน เพื่อชาติ 2 คน พลังปวงชนไทย 1 คน และฝ่ายค้านอิสระ มงคลกิตติ์ 1 คน
ส่วนประเด็นร้อนที่หลายคนจับตาว่า ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ที่เพิ่งประกาศตัวจะขอมาทำงานกับฝ่ายค้าน จะได้ร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจกับฝ่ายค้านหรือไม่นั้น สุทินกล่าวว่า ในการหารือขั้นต้น ร.อ. ธรรมนัสยังไม่ปิดทาง และยังไม่ได้เเจ้งความจำนงมา เนื้อหาที่พูดคุยกันมีแต่สอบถามและประสานเรื่องความพร้อม ไปจนถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน แต่ถ้า ร.อ. ธรรมนัสเปลี่ยนใจ เเละฝ่ายค้านเห็นว่ามีเป้าหมายตรงกัน อาจจะแบ่งเวลาให้ได้อภิปราย แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการเเจ้งเข้ามา
ทั้งนี้ หาก ร.อ. ธรรมนัสประสานเข้ามาในช่วงระหว่างการอภิปรายในสภานั้น ตนเกรงว่าฝ่ายค้านอาจจะไม่สามารถจัดเวลาให้ได้ เพราะทุกอย่างลงตัวอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการลงมติจะเป็นไปในทางเดียวกันกับฝ่ายค้านหรือไม่นั้นยังไม่ได้คุยกัน
ขณะที่ นพ.ชลน่านย้ำว่า การที่ ร.อ. ธรรมนัสประกาศจะมาทำงานกับฝ่ายค้าน ไม่ได้หมายความว่าแนวทางและความคิดทุกอย่างจะต้องไปในทิศทางเดียวกัน ฝ่ายค้านมีหลายลักษณะ อย่างเช่น พรรคไทยศรีวิไลย์ ที่เป็นฝ่ายค้านอิสระ มาร่วมอุดมการณ์ในบางอีเวนต์ เมื่อเห็นในสิ่งที่ตรงกัน
