วันนี้ (22 มิถุนายน) สุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดมหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงข่าวถึงการเตรียมพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ (รธน.) ว่าในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยเตรียมที่จะลงมติให้ความเห็นชอบทั้ง 4 ร่างของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งไม่นับรวมร่างที่ประธานรัฐสภาไม่บรรจุในระเบียบวาระการประชุมคือมาตรา 256 ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นของพรรคพลังประชารัฐหรือพรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติแล้วว่าจะส่งผู้อภิปรายไม่เกิน 30 คน โดยจะรอฟังการอภิปรายและเหตุผลของแต่ละร่างก่อนที่จะมีการลงมติ
สำหรับร่างของพรรคพลังประชารัฐและของพรรคร่วมรัฐบาลนั้นมีส่วนที่ตรงกับร่างของพรรคเพื่อไทย ซึ่งในส่วนนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหา และในส่วนที่ไม่ตรงพรรคเพื่อไทยก็จะดูและพิจารณาดูว่าสามารถที่จะนำสู่การปรับปรุงแก้ไขในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) วาระ 2 ได้หรือไม่ ซึ่งหากนำสู่การปรับปรุงแก้ไขได้ พรรคเพื่อไทยก็อาจจะนำสู่การลงมติเห็นชอบในหลักการไป แต่เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่สามารถที่จะนำสู่การปรับปรุงแก้ไขได้เราก็มีความชัดเจนว่าเราก็จะให้ความเห็นชอบไม่ได้
สุทินกล่าวว่า สำหรับกรณีที่ฝ่ายกฎหมายของสภาไม่เห็นชอบในการแก้ไขมาตรา 256 ของพรรคเพื่อไทยนั้น เราต้องมองในแง่ดีว่าเป็นเพราะว่า ขณะนี้เรายังไม่มีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ดังนั้นแนวปฏิบัติที่จะนำไปสู่การทำประชามติจึงยังไม่มีใครที่จะปฏิบัติได้ ซึ่งถ้ารอให้กฎหมายประชามติผ่านสภาและรอประกาศใช้ ก็จะนำประเด็นดังกล่าวเข้าหารือร่วมกับ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพูดคุยกันว่าจะมีวิธีใดที่จะสามารถดัน ประเด็นดังกล่าวเข้าที่ประชุมเพื่อดันให้คณะรัฐมนตรีมีมติในการจัดทำประชามติ
ดังนั้นเพื่อความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ ก่อนการพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ตนก็จะขอปรึกษาหารือประธานรัฐสภา สำหรับกรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้การยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ทั้งฉบับจะต้องผ่านการจัดทำประชามติก่อนนั้น พรรคเพื่อไทยก็พิจารณาเห็นแล้วจึงได้เสนอมาตรา 256 ขึ้นมาเพื่อเป็นต้นเรื่องให้นำสู่การจัดทำประชามติ ดังนั้นการนำเสนอเข้ามาเราจึงมีเจตนาที่จะให้ประเด็นดังกล่าวเป็นต้นเรื่องในการจัดทำประชามติ ซึ่งหากเราไม่เสนอเข้ามาก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นในการจัดทำประชามติได้อย่างไร
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ