วันนี้ (14 มกราคม) อนุพงษ์ เจริญเวช ผู้อำนวยการฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับตัวแทนของบริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO และบริษัท โปรทา จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ realme เบื้องต้นตัวแทนทั้ง 2 บริษัทให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ แต่เลี่ยงที่จะตอบคำถามบางประเด็น ซึ่งยังไม่ได้ข้อมูลเชิงลึก เจ้าหน้าที่กำลังเค้นสอบให้ได้ข้อมูลเชิงลึกมากกว่านี้ ซึ่งข้อมูลในวันนี้จะนำไปประชุมร่วมกับ จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (15 มกราคม)
สำหรับความเสียหายและข้อมูลผู้ลงทะเบียนแอปพลิเคชัน Fineasy และสินเชื่อความสุข มีตัวเลขเท่าไร ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อมูลจากทั้ง2 บริษัท แต่วันที่ 16 มกราคม จะมีการอัปเดต OTA และส่งไปให้ผู้ใช้บริการถอนการติดตั้งแอป Fineasy ส่วนแอปสินเชื่อความสุข ตอนนี้สามารถถอนการติดตั้งได้ทันที
ขณะเดียวกัน มีผู้ร้องเรียนเข้ามาที่ สคบ. แล้ว 9-10 ราย ยังไม่เกิดความเสียหายในการใช้แอปกู้ยืมเงิน แต่มีความกังวลเรื่องการรั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคล สคบ. รับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว ส่วนที่มีผู้เสียหายกู้เงินผ่านแอปดังกล่าว สามารถไปดำเนินคดีทางอาญาได้ หากมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือทวงถามผิด พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ ก็สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนได้ ซึ่งส่วนนี้จะเชิญกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เข้าร่วมประชุมด้วยในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ แนวทางในการสอบถาม สคบ. ต้องการข้อมูลเชิงลึกว่าแอปดังกล่าวใช้กับโทรศัพท์รุ่นไหนบ้าง มีจำนวนเท่าไร มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไร รวมถึงผู้ให้บริการแอปสินเชื่อดังกล่าวขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และมีใครเป็นนายทุน ซึ่งเรื่องนี้มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงต้องรวบรวมข้อมูลให้มากกว่านี้เพื่อสืบสวนต่อ
ขณะเดียวกัน สคบ. มีอำนาจในการออกหนังสือเรียกดูสัญญาระหว่างบริษัทผู้ผลิตมือถือและเจ้าของแอปได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนสามารถเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบเพิ่มเติมได้เช่นเดียวกัน แต่ต้องดูขอบเขตอำนาจว่าในประเทศไทยสามารถทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน
เมื่อถามว่า แอปดังกล่าวที่ติดตั้งมาจากโรงงานในประเทศจีน ได้รับการอนุญาตให้ดำเนินการอย่างถูกต้องหรือไม่ อนุพงษ์ระบุว่า สอบถามทั้ง 2 บริษัทแล้ว ได้คำตอบว่าเป็นเพียงบริษัทนำเข้าหรือตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น โดยไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เพราะแอปติดตั้งมาตั้งแต่ต้นทาง แต่ สคบ. ยังไม่ปักใจเชื่อ อย่างไรก็ตาม เมื่อถามย้ำว่า แอปดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนไทยกู้เงินหรือไม่ อนุพงษ์ระบุว่า อาจจะคิดไปในแนวนั้นก็ได้ ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ธุรกิจสินเชื่อสามารถทำได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละประเทศ ซึ่งต้องทำให้ถูกต้องด้วย