เป็นเวลากว่า 15 ปีแล้วที่ OPPO สมาร์ทโฟนจากแดนมังกรได้ข้ามน้ำข้ามทะเลเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย
ชานนท์ จิรายุกุล ประธานกรรมการอาวุโสฝ่ายบริหาร ออปโป้แห่งประเทศไทย เล่าย้อนว่า ในช่วงเริ่มต้นแบรนด์ถูกจดจำในฐานะ ‘Selfie Expert’ และได้พัฒนาจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพพอร์เทรต หรือ ‘The Portrait Expert’
ความสำเร็จที่สำคัญของการเดินทางครั้งนี้คือ Reno Series ซึ่งเป็นสายผลิตภัณฑ์เรือธงที่มียอดขายมากกว่า 98 ล้านเครื่อง ในกว่า 60 ประเทศและภูมิภาค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- การล้มเลิก ‘พัฒนาชิป’ ภายในองค์กรโดยไม่คาดคิดของ Oppo ส่งสัญญาณถึงอนาคตที่ยากลำบากสำหรับอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน
- OPPO Find N2 Flip จะล้ำขึ้นไปอีก! เมื่อนักพัฒนากำลังออกแบบฟีเจอร์ใหม่ให้จอฝาหลังเข้าแอป YouTube, TikTok และ LINE ได้แบบไม่ต้องเปิดฝา
- OPPO เทหมดหน้าตัก! ส่งมือถือจอพับบุกตลาดโลก เปิดตัวรุ่น Find N2 Flip ในไทย ราคา 29,990 บาท
แต่การเข้าถึงและอิทธิพลของ OPPO มีมากกว่าสินค้า เพราะได้สร้างผลกระทบที่สำคัญในตลาดโลก โดยก้าวขึ้นเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มีส่วนแบ่งเป็นอันดับ 4 ของประเทศ และเป็นอันดับ 2 ของไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 2566
เมื่อสะท้อนถึงความท้าทายที่ OPPO เผชิญในช่วงแรกๆ จิรายุกุลเล่าถึงความกังขาของตลาดที่มีต่อแบรนด์จีนในช่วงแรกซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุด แต่สุดท้าย OPPO ก็เอาชนะด้วยคุณภาพและบริการที่เหนือกว่า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงการรับรู้เหล่านี้ ปูทางให้แบรนด์จีนอื่นๆ ได้รับการยอมรับในระดับโลกด้วย
อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ อุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนมีการเปลี่ยนแปลงและพลิกผันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จิรายุกุลรับทราบถึงสภาพแวดล้อมที่ไม่หยุดนิ่งนี้ โดยสังเกตได้จากการแข่งขันที่รุนแรง แต่เขายังเน้นย้ำถึงโอกาสมากมายที่ยังรออยู่
OPPO ไม่ได้เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงนี้เท่านั้น แต่องค์กรได้ปรับกลยุทธ์และสมาร์ทโฟนของตัวเองอย่างจริงจังเพื่อให้นำหน้าคู่แข่ง โดยแบรนด์เปลี่ยนจากฟีเจอร์โฟนเป็นสมาร์ทโฟน และตอนนี้ได้เข้าสู่หมวดสินค้าอุปกรณ์ IoT
กลยุทธ์ของ OPPO ให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต เช่น เทคโนโลยีชาร์จเร็ว หรือการบริการลูกค้า OPPO ได้ลงทุนจำนวนมาก โดยมีศูนย์บริการในห้างสรรพสินค้าเกือบทุกแห่ง และการซ่อมส่วนใหญ่จะเสร็จสิ้นภายใน 1 ชั่วโมง
อนาคตเป้าหมายหลักของ OPPO คือการขยับตำแหน่งตัวเองในตลาดโลกและเพิ่มส่วนแบ่งตลาด โดยวางแผนที่จะมุ่งเน้นไปที่รุ่นเรือธง และขยายสายผลิตภัณฑ์ Reno เพื่อเข้าถึงฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น
แม้จะรู้สถานการณ์การหดตัวของตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก แต่ OPPO ก็ยังคงมั่นใจว่าจะรักษาและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมและมีคุณภาพสูงแก่ผู้บริโภคต่อไป