×

Love Next Door หมดไฟ ไร้รัก ซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้บนพื้นฐานชีวิตคนรุ่นใหม่

05.09.2024
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MIN READ
  • ความโดดเด่นของ Love Next Door คือการผสมผสานความโรแมนติกเข้ากับเรื่องราวเชื่อมโยงกับชีวิตคนรุ่นใหม่ผ่านตัวละคร แบซอกรยู (จองโซมิน) หญิงสาวที่มีความมุ่งมั่นทะเยอทะยาน แต่ชีวิตกลับต้องสะดุดเมื่อพบว่าสิ่งที่ทำมาทั้งชีวิตอาจไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ ก็เหมือนตัวเราในบางครั้งที่เผลอทำอะไรสักอย่างออกมาได้ดีแล้วก็ทำสิ่งนั้นไปเรื่อยๆ แต่ไม่เคยถามตัวเองว่าชอบจริงๆ หรือเปล่า
  • ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ (KOSIS) ระบุว่า ในปี 2023 คนเกาหลีใต้อายุระหว่าง 15-29 ปี ในวัยทำงาน 497,000 คน ไม่มีความกระตือรือร้นทางเศรษฐกิจ และอยากพักจากการทำงาน ซึ่งเป็นผลมาจากความเครียดในสังคมแข่งขันตั้งแต่วัยเรียนจนถึงวัยทำงาน
  • ในระยะหลังเราจึงได้เห็นซีรีส์เกาหลีใต้หลายเรื่องหยิบประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาพูดถึง และประสบความสำเร็จไปหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Hometown Cha-Cha-Cha, Welcome to Samdal-ri และ Doctor Slump ซึ่งใน Love Next Door ก็เช่นเดียวกัน

หลังจากออกอากาศมาได้ 6 อีพี Love Next Door ก็สร้างสถิติใหม่ด้วยเรตติ้งสูงสุดที่ 6.8 และขึ้นอันดับ 2 ซีรีส์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษของ Netflix ด้วยเนื้อหาโรแมนติกคอเมดี้ดูสบาย แต่ก็สอดแทรกประเด็นน่าสนใจสะท้อนชีวิตคนรุ่นใหม่คือ หมดไฟ ไร้รัก และอยู่ภายใต้แรงกดดันรอบด้านจนอยากหาที่พึ่งพิง

 

 

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ (KOSIS) ระบุว่า ในปี 2023 คนเกาหลีใต้อายุระหว่าง 15-29 ปี ในวัยทำงาน 497,000 คน ไม่มีความกระตือรือร้นทางเศรษฐกิจ และอยากพักจากการทำงาน ซึ่งเป็นผลมาจากความเครียดในสังคมแข่งขันตั้งแต่วัยเรียนจนถึงวัยทำงาน ในระยะหลังเราจึงได้เห็นซีรีส์เกาหลีใต้หลายเรื่องหยิบประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาพูดถึง และประสบความสำเร็จไปหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Hometown Cha-Cha-Cha, Welcome to Samdal-ri และ Doctor Slump ซึ่งใน Love Next Door ก็เช่นเดียวกัน 

 

แบซอกรยู (จองโซมิน) มีชีวิตที่หลายคนอิจฉา เธอทำงานที่บริษัทระดับโลกในสหรัฐอเมริกา (ประมาณบริษัท Apple ในชีวิตจริง) ด้านชีวิตรักเธอก็กำลังจะแต่งงานกับผู้ชายแสนเพอร์เฟกต์ แต่แล้วซอกรยูกลับตัดสินใจทิ้งทุกอย่างแล้วกลับเกาหลีใต้ สร้างความไม่พอใจให้กับ นามีซุก (พัคจียอง) แม่ของเธออย่างมาก เพราะซอกรยูคือความภาคภูมิใจที่เธอเอาไว้ขิงกับ ซอฮเยซุก (จางยองนัม) เพื่อนในแก๊งแม่บ้านที่มักจะเอาความสำเร็จของลูกชายคือ ชเวซึงฮโย (จองแฮอิน) ขึ้นมาข่มตลอด โดยปัจจุบันซึงฮโยเป็นสถาปนิกมือรางวัลของเกาหลีใต้

 

 

ซอกรยูและซึงฮโยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ทั้งคู่มีรั้วบ้านติดกัน และแทบจะอยู่ด้วยกันในทุกช่วงชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นไม้เบื่อไม้เมามาตั้งแต่เล็กจนโต การกลับมาของซอกรยูสร้างทั้งความวุ่นวายและรื้อฟื้นบางอย่างในใจของซึงฮโยขึ้นมาใหม่ 

 

หลังจากต้องเผชิญหน้ากับแม่และโดนตำหนิชุดใหญ่ ซอกรยูก็ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจคือการกินกับนอน และกลับเข้าสู่ชีวิตของซึงฮโยอีกครั้ง ขณะเดียวกันเธอก็ค้นพบเป้าหมายใหม่ในชีวิตคือการทำอาหาร (ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่ารายได้จะดีเหมือนเดิมหรือเปล่า) ส่วนซึงฮโยก็ได้แต่ซ่อนความวุ่นวายใจภายใต้ท่าทีขึงขัง ไม่กล้าบอกความในใจกับเพื่อนสนิท เรื่องวุ่นไม่จบแค่นั้น เมื่อรักเก่าของซึงฮโยกลับเข้ามา ขณะที่คู่หมั้นของซอกรยูก็ทำท่าว่าจะขอคืนดี แล้วความรักของทั้งคู่จะจบอย่างไร ต้องไปติดตามใน Love Next Door 

 

 

ความโดดเด่นของ Love Next Door คือการผสมผสานความโรแมนติกเข้ากับเรื่องราวเชื่อมโยงกับชีวิตคนรุ่นใหม่ผ่านตัวละครซอกรยู หญิงสาวที่มีความมุ่งมั่นทะเยอทะยาน แต่ชีวิตกลับต้องสะดุดเมื่อพบว่าสิ่งที่ทำมาทั้งชีวิตอาจไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ ก็เหมือนตัวเราในบางครั้งที่เผลอทำอะไรสักอย่างออกมาได้ดีแล้วก็ทำสิ่งนั้นไปเรื่อยๆ แต่ไม่เคยถามตัวเองว่าชอบจริงๆ หรือเปล่า เมื่อผนวกกับการแบกความฝันของแม่ไว้บนบ่าที่เธอบอกว่า “เป็นกระดาษห่อของขวัญของแม่” ก็พอจะเข้าใจถึงแรงกดดัน ขณะเดียวกันก็เข้าใจมุมของแม่ที่พลาดโอกาสในชีวิตเพราะยากจน จึงฝากความฝันทั้งหมดไว้ที่ลูกสาว

 

ซีรีส์ยังสะท้อนชีวิตการทำงานและความเป็นเดอะแบกของซอกรยู แม้จะทำงานหนักก็ไม่ได้เป็นที่รักเสมอไป และมักถูกหลอกใช้โดยไม่รู้ตัว ส่วนหนึ่งก็มาจากพื้นฐานความต้องการการยอมรับทั้งจากครอบครัวและสังคมในเกาหลีใต้ เมื่อทุกอย่างประเดประดังเข้ามา ภาวะหมดไฟก็ถามหา ถ้าใครมีประสบการณ์แบบนี้ก็คงรู้ว่าแค่ฝืนทำต่อไปแค่วันเดียวยังแทบไม่ไหวเลย 

 

 

ส่วนซึงฮโยแม้จะไม่ได้เจาะลึกถึงประเด็นนี้สักเท่าไร แต่ซีรีส์ก็ใส่เรื่องราวความสัมพันธ์แบบมีกำแพงกั้นในครอบครัวจากความผิดพลาดที่แม่เคยทำในอดีต แม้หน้าฉากจะออกมาดูดี แต่ภายในมีแต่ความเย็นชา ซึ่งบางทีซอกรยูก็อาจเป็นคนเดียวที่เขาสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ จนกลายเป็นรักที่ฝังใจจนเหมือนลืมไปแล้ว แต่ก็กลับขึ้นมาใหม่ได้อยู่เสมอ 

 

พล็อตเรื่องของ Love Next Door ดำเนินไปตามแนวคิด ‘เพื่อนกลายเป็นคนรัก’ ใส่ความโรแมนติกแบบเต็มแม็กซ์จนใครก็อยากจะมี ‘ซึงฮโย’ ในชีวิตสักคนเอาไว้คอยพูดด้วยตรงๆ ว่า “อย่าฝืนตัวเองให้หัวเราะ ถ้าเธออยากร้องไห้” ไหนจะเรื่องเซอร์ไพรส์เล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ ถึงอย่างนั้นก็ยั่วยุให้คนดูได้ลุ้นด้วยการเก็บงำความในใจ และอาการรักเธอแบบไม่รู้ตัวของซอกรยู

 

ทางด้านการแสดง จองโซมินในบทแบซอกรยูมีความละเอียดอ่อนแต่เข้าถึงได้ มีความเป็นเจ้ใหญ่ ทอมบอยนิดๆ ผสมกันระหว่างความเข้มแข็งและเปราะบางอย่างลึกซึ้ง จนทำให้ผู้ชมเชียร์ให้เธอได้ปะติดปะต่อชีวิตของเธอใหม่ได้เร็วๆ ส่วนชเวซึงฮโยของจองแฮอินมาในแนวลมใต้ปีก อาจไม่ได้โดดเด่นช่วงแรกเพราะปูพื้นฐานชีวิตของซอกรยูเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ค่อยๆ แผ่รังสีความอบอุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรวมเข้ากับเสน่ห์เหลือล้นของจองแฮอินด้วยแล้วเป็นอันกรี๊ดสลบศพสีชมพูกันเลยทีเดียว

 

 

นอกเหนือจากนักแสดงนำแล้ว Love Next Door ยังสร้างคอเมดี้และดราม่าครอบครัวจากนักแสดงกลุ่มผู้ใหญ่และเพื่อนๆ ข้างบ้านได้อย่างมีสีสัน โดยถัวเฉลี่ยบทในแต่ละตอนให้แต่ละคนมีความโดดเด่นอารมณ์ซีรีส์ซิตคอมได้อีกต่างหาก 

 

โดยรวมแล้ว Love Next Door คือซีรีส์สำรวจความรัก มิตรภาพ และการเติบโต ที่รวบรวมประเด็นต่างๆ ทั้งความคาดหวังของสังคม ความล้มเหลวในชีวิต และแรงกดดันที่จะต้องประสบความสำเร็จ จึงเข้าถึงทุกคนที่เผชิญความท้าทายในชีวิตและต้องการที่พึ่งพิง หรือจริงๆ ก็คือการปลอบประโลมใจคนวัยทำงานให้เข้าไปอยู่ในโลกจินตนาการ และฝันว่าชีวิตนี้น่าจะมีซึงฮโยเป็นของตัวเองในสักวัน

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising