เผลอแป๊บเดียว Foo Fighters ก็กลายเป็นวงที่อยู่คู่หูของชาวร็อกมาเกิน 20 ปี

     และกว่า 20 ปีนั้นพวกเขามาเยี่ยมเยียนบ้านเราเพียงครั้งเดียว!

     ตัวเลขนี้เป็นอัตราส่วนที่ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย เมื่อคุณรู้อยู่แก่ใจว่าในเมืองไทยนั้นเต็มไปด้วยแฟนเพลงที่พร้อมจ่ายเพียงเพื่อได้ชมวงดนตรีวงโปรดสักครั้ง

     นับเป็นเวลานานแสนนานนับตั้งแต่ 18 มกราคม 1996 วันที่พวกเขามาเล่นคอนเสิร์ตในเมืองไทยครั้งแรกที่งาน Alternative Nation Tour ร่วมกับ Beastie Boys และ Sonic Youth หลายๆ ท่านยังไหวตัวไม่ทันว่าพวกเขาจะกลายเป็นวงร็อกระดับตำนานเช่นนี้ เพราะฉะนั้นคอนเสิร์ตช่วงปลายเดือนสิงหาคมจึงไม่มีเหตุผลที่คุณจะพลาดมันด้วยประการทั้งปวง เพราะนี่คือโอกาสดีที่เราจะได้ชมพวกเขาในระหว่างที่วงยังอยู่ในจุดสูงสุด พีกที่สุด และพร้อมที่สุด

 

 

     ผมกับเนทไม่ได้เป็น mate กัน แต่เราทั้งอยู่และใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นในเมืองเดียวกัน เลยทำให้ผมดีใจเป็นอย่างมากตอนที่ทีมงานบีอีซี-เทโรมิวสิคติดต่อมาว่าจะได้สัมภาษณ์คุณเนท เมนเดล (Nate Mendel) มือเบสช่างพูดของวง Foo Fighters เพื่อพูดคุยเรื่องอัลบั้มใหม่ของวง รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับคอนเสิร์ตที่เรากำลังจะได้ดูกัน

     เช้าตรู่ของวันอังคารที่ผ่านมา ผมนั่งรอโทรศัพท์จากทางโซนี่อเมริกา เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น ผมจึงรับมันด้วยความตื่นเต้นปนประหม่า ประสบการณ์บอกกับผมว่า การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์นั้นยากกว่าการสัมภาษณ์แบบตัวเป็นๆ อย่างมาก

     แต่เพียงแค่การทักทายอย่างเป็นกันเองของเนทก็ทำให้ผมใจชื้น

 

ก่อนอื่นอยากจะบอกกับคุณว่า ผมมีซีดีชุดแรกของวง Sunny Day Real Estate (1994) ซึ่งเป็นวงดนตรีวงแรกของคุณอยู่ที่บ้าน

     บ้าน่า! ที่บ้านผมยังไม่มีเลย (เนทตอบกลับแล้วตามด้วยเสียงหัวเราะที่เฮฮาจนผมมั่นใจว่าการสัมภาษณ์จะออกมาอย่างเป็นกันเองแน่นอน)

 

ก่อนอื่นขอบคุณมากที่กลับมาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทย คุณเคยเดินทางมาที่นี่ในทริปพักผ่อนส่วนตัวบ้างหรือเปล่า

     ตอบตรงๆ เลยครับ ในรอบ 20 ปีผมเพิ่งจะมีโอกาสเดินทางออกนอกทวีปเพื่อพักผ่อนแบบจริงๆ จังๆ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี่เอง เพราะผมเดินทางเยอะมากอยู่แล้วเวลาที่ออกทัวร์ เยอะจนทำให้เบื่อการเดินทางนานๆ แต่ต่อให้เบื่อยังไง การออกไปเจอสิ่งใหม่ๆ ในที่ๆ ผมยังไม่เคยไปก็ยังตื่นเต้นอยู่เสมอ

     ในกรณีของประเทศไทย ถึงแม้เราจะเคยเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตเมื่อปี 1996 ครั้งนึงแล้ว แต่มันก็นานเสียจนผมหลงลืมบรรยากาศ ก็หวังว่าทริปนี้จะทำให้ผมหลงรักประเทศของคุณอีกครั้งครับ

 

การเล่นคอนเสิร์ตครั้งไหนที่คุณประทับใจและยังคงนึกถึงมันอยู่เสมอ

     โอ…ตอบยากนะ แต่ตอบได้ (หัวเราะ 5 วินาที) แน่นอนว่าการได้เล่นเป็นวงเฮดไลน์ที่งานแกลสตันบิวรีเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ เพราะนี่คือโคตรพ่อโคตรแม่ของเทศกาลดนตรีโลก ผมยังเคยได้ไปเล่นที่อะโครโพลิส ในเมืองเอเธนส์ ซึ่งเป็นอะไรที่บ้ามากๆ

     นอกจากนั้นยังมีโชว์เล็กๆ ที่เราจัดขึ้นเพื่อแฟนๆ ซึ่งทำให้เราหัวใจพองโตทุกครั้งที่ได้เล่นในผับในบาร์เล็กๆ และได้ใกล้ชิดกับแฟนๆ หรือจะเป็นเมื่อครั้งที่เราไปเล่นในเมืองเชเซนา ประเทศอิตาลี เพราะมีชาวร็อก 1,000 คนมารวมตัวกันเล่นเพลงของเราและถ่ายวิดีโอขอร้องให้เราไปเล่น มันพิเศษมากๆ ที่เราได้รับเกียรตินั้น

 

ผมเคยดูคอนเสิร์ตของคุณเมื่อปี 2015 มันสุดยอดมากๆ คุณลองช่วยอธิบายโชว์คอนเสิร์ตของ Foo Fighters ให้กับคนที่ไม่เคยดูหน่อยครับ

     การรวมตัวกันของคนดูและคนเล่นที่ตั้งใจมาให้ความสุขแก่กันและกัน (หัวเราะรัวๆ) มันอาจจะฟังเลี่ยนๆ แต่เป็นเรื่องจริงครับ

     เราอยากเจอพวกคุณ พอๆ กับที่คุณอยากเจอกับเรา โชว์ของวงเราจะเล่นยาวๆ บางครั้งก็เลยเถิดเป็นยาวมากหากคนดูต้องการมันจริงๆ เพราะฉะนั้น การมาดูคอนเสิร์ตของเราคือการมาร่วมสนุกกันอย่างสุดเหวี่ยง และคุณจะกลับบ้านไปด้วยความเมื่อยล้าระดับแม็กซ์ เพราะคุณจะกระโดดทั้งโชว์

 

 

ทางวงกำลังจะออกอัลบั้มชุดใหม่ (Concrete and Gold) ในเดือนหน้า และจากที่ได้ไปส่องๆ เซตลิสต์ของพวกคุณก็เห็นว่ามีการเล่นเพลงจากอัลบั้มนี้บ้างแล้วด้วย คนดูมีปฏิกิริยากับเพลงใหม่อย่างไรบ้าง

     มันน่าสนใจมากครับเวลาเราเล่นเพลงใหม่ที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย เพราะเราจะได้เห็นการตอบรับแบบเป็นธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ ในโชว์ที่ผ่านมาเราเล่นเพลงจากอัลบั้มใหม่ถึง 3 เพลง เพลง Run หลายๆ คนรู้จักไปแล้ว เพราะเพิ่งปล่อยเป็นซิงเกิล แต่มีอยู่อีกสองเพลงที่เราชอบมากเป็นการส่วนตัวและอยากให้คนดูได้ฟังกันคือเพลง La Dee Da กับ Dirty Water และขอบอกว่าจากการที่เราได้ลองเล่น 2 เพลงนี้จะเป็นเพลงที่คนดูจะสนุกกับมันสุดๆ อย่างแน่นอน

 

พูดถึงอัลบั้มใหม่ คุณได้ร่วมงานกับ Greg Kurstin เป็นครั้งแรก

     ครับ สองชุดที่ผ่านมาเราทำงานกับ บุทช์ วิก (Butch Vig – โปรดิวเซอร์อัลบั้ม Nevermind ของ Nirvana และสมาชิกวง Garbage) ซึ่งผลที่ออกมามันร็อกกันสุดๆ แต่พอผ่านมา 2 ชุด เราจึงอยากลองทำงานกับโปรดิวเซอร์คนใหม่เพื่อที่จะได้เป็นที่มาของแรงบันดาลใจใหม่ๆ บ้าง จนกระทั่งเดฟ โกรล (Dave Grohl) เสนอชื่อของเกร็ก เคอร์สติน (Greg Kurstin) ขึ้นมา มันน่าสนใจมากๆ เพราเกร็กคือโปรดิวเซอร์สายเพลงป๊อบ เขาเคยทำงานร่วมกับ อเดล (Adele), พิงก์ (Pink) และ Lily Allen (ลิลลี่ อัลเลน) เขาน่าจะนำซาวน์ใหม่ๆ สดๆ มาสู่วงของเราได้ เขาช่วยเดฟในเรื่องของการแต่งเนื้อเพลงได้เยอะมากๆ และผลที่ออกมาก็ต้องบอกว่ามันเยี่ยมมากครับ เราภูมิใจกับอัลบั้มชุดนี้กันสุดๆ

 

ลองอธิบายภาพรวมของอัลบั้มชุดนี้หน่อยครับ

     Concrete and Gold คือการผสมผสานสิ่งที่อยู่ต่างกันสุดขั้วเอาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เรามีดนตรีหลากหลายและเนื้อเพลงที่พูดถึงหลายสิ่งหลายอย่างอยู่ในอัลบั้มนี้ มันมีทุกฟีลอยู่ในอัลบั้มจริงๆ เดฟบอกว่ามันเหมือนเอาวง Motorhead ไปเล่นเพลงของ The Beatles ยังไงยังงั้น

 

ชอบเพลงไหนที่สุดในอัลบั้มครับ

     ถ้าจะให้ตอบหล่อๆ คงต้องตอบว่า “โอ้ววว ชอบทุกเพลงครับ เพราะทุกเพลงเปรียบเสมือนลูกๆ ของผม” แต่บอกเลยครับ เขียนลงไปในบทความด้วยว่าผมชอบเพลง Dirty Water ที่สุดในอัลบั้มนี้! พวกคุณรอฟังกันได้เลย

 

 

บอกอะไรกับแฟนๆ ชาวไทยที่รอคอยพวกคุณกันมา 21 ปี

     โอ๊ย 21 ปีนี่มันบ้ามากๆ ทำไมเราถึงไม่ได้กลับไปนานขนาดนี้วะ!? ขอบคุณมากๆ ครับที่รอ รวมถึงสนับสนุนพวกเรามาตลอด คราวที่แล้วที่มาเล่นเราเพิ่งออกอัลบั้มแรก มีเพลงออกมาแค่ 12 เพลง ยังร็อกกันได้ไม่สุดเท่าไร แต่ตอนนี้ถ้ารวมงานชุดใหม่ เรามี 9 อัลบั้ม! มีเพลงเป็นร้อยๆ! เราจะเลือกที่เด็ดสุดๆ มาเล่นให้พวกคุณได้ฟังกัน เตรียมร่างกายของคุณให้พร้อม เพราะเราเล่นกันเกิน 2 ชั่วโมง แล้วเจอกันครับ!

 

ขอบคุณ: คุณเอก บีอีซี-เทโรมิวสิค ที่อำนวยความสะดวกในการสัมภาษณ์