×

เปิดมุมมอง-โอกาสลงทุน ‘ตลาดหุ้นจีน’ ปี 2024

17.06.2024
  • LOADING...
ตลาดหุ้นจีน

ภูมิทัศน์การลงทุนทั่วโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นักลงทุนที่มีความชำนาญก็มักจะมองหาช่องทางที่มีโอกาสลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนสูง ซึ่งในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ‘ตลาดหุ้นจีน’ หนึ่งในตลาดหุ้นที่นักลงทุนสนใจก็ปรับตัวค่อนข้างมาก โดยเฉพาะปี 2023 ที่แม้ว่าตลาดหุ้นโลกจะปรับตัวขึ้นประมาณ 20% แต่ตลาดหุ้นจีนกลับปรับตัวลดลงประมาณ 14% ทำให้ปัจจุบันนักลงทุนมีความกังวลกับการกลับเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นจีนค่อนข้างมาก

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ปี 2024 ตลาดหุ้นจีนได้ปรับตัวขึ้นและสร้างผลตอบแทนได้ดี จึงทำให้ตลาดหุ้นจีนเป็นจุดหมายที่นักลงทุนให้ความสนใจอีกครั้ง โดยในปี 2024 MSCI China All Shares Index ซึ่งประกอบด้วยหุ้นจีนที่ซื้อขายในประเทศจีน (A Share), หุ้นจีนที่ซื้อขายในตลาดฮ่องกง (H Share) และหุ้นจีนที่ซื้อขายในตลาดสหรัฐอเมริกา (ADR) สามารถสร้างผลตอบแทนได้ 4.87% ในสกุลเงิน USD และ 12.30% ในสกุลเงินไทยบาท (ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2024, อ้างอิง: Bloomberg)

 

โดยผลตอบแทนในสกุลเงินไทยบาทประกอบไปด้วยหุ้น A Share ประมาณ 5% และส่วนที่เหลือจากหุ้นที่เทรดในตลาดฮ่องกงและตลาดสหรัฐอเมริกาอีกประมาณ 9%

 

หุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในปีนี้จะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อพิจารณาในรายละเอียดแล้วกลุ่มอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างผลตอบแทนสูงในปีนี้มาจาก Energy, Communication Services, Utilities และ Financials

 

4 เหตุผลน่าสนใจกับ การลงทุน ตลาดหุ้นจีน ปี 2024

 

จากการปรับตัวของตลาดหุ้นจีนที่ทำให้การลงทุนกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง ยังมีอีก 4 เหตุผลที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนในปี 2024 อาจเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน ได้แก่ 

 

1. ความยืดหยุ่นและศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ

 

แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะเผชิญกับความท้าทายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ยังคงแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นที่รัฐบาลจีนมีความสามารถในการนำนโยบายที่กระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจมาใช้ แม้จะอยู่ในสภาวะที่ไม่แน่นอนทั่วโลก ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ไว้ว่า GDP ของจีนจะกลับมาเติบโตที่ประมาณ 5.2% ในปี 2024

 

โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง นวัตกรรมทางเทคโนโลยี และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ชนชั้นกลางที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วของจีนจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อรายได้เพียงพอต่อความสามารถในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ความต้องการสินค้าที่หลากหลายและบริการต่างๆ เพิ่มขึ้น ตั้งแต่สินค้าบริโภคทั่วไปไปจนถึงสินค้าฟุ่มเฟือย บริษัทที่ตอบสนองต่อฐานผู้บริโภคที่กำลังเติบโตนี้จะได้รับประโยชน์อย่างมาก

 

ภาคส่วนต่างๆ เช่น ค้าปลีก สุขภาพ การศึกษา และการท่องเที่ยว มีแนวโน้มการเติบโตที่สำคัญ ทำให้มีโอกาสการลงทุนที่สามารถสร้างผลกำไรได้

 

2. นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและความเป็นผู้นำในตลาด

 

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าประเทศจีนอยู่ในแนวหน้าของหลายภาคส่วนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึง 5G, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ยานพาหนะไฟฟ้า (EVs) และพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) การลงทุนในบริษัทเหล่านี้ทำให้นักลงทุนสามารถได้รับผลประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว กับทั้งตลาดที่กำลังเติบโตสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ 

 

3. Valuation ของตลาดที่ไม่แพง

 

แม้จะมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง แต่ราคาหุ้นจีนที่ซื้อขายกันอยู่ช่วงนี้มีมูลค่าที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับหุ้นทั่วโลก ความต่างของมูลค่านี้จึงเป็นโอกาสในการซื้อหรือเข้าลงทุนสะสมสำหรับนักลงทุนระยะยาว 

 

4. ประโยชน์จากการกระจายการลงทุนในตลาดหุ้นจีน

 

ตลาดหุ้นจีนให้ประโยชน์ในการกระจายการลงทุนที่สำคัญต่อนักลงทุนทั่วโลก ความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นจีนและหุ้นในตลาดที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ และยุโรปค่อนข้างต่ำ ซึ่งหมายความว่าหุ้นจีนสามารถให้การป้องกันความเสี่ยงต่อความผันผวนในตลาดอื่นๆ การกระจายการลงทุนไปยังหุ้นจีนจึงสามารถเพิ่มผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนทั่วโลกได้

 

ดังนั้นการลงทุนในตลาดหุ้นจีนในปี 2024 นำเสนอหลายโอกาสที่เกิดจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง นวัตกรรมทางเทคโนโลยี นโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล และความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ตลาดหุ้นนี้ให้ประโยชน์ในการกระจายการลงทุนและมีมูลค่าที่น่าสนใจ ทำให้เป็นส่วนเสริมเชิงกลยุทธ์ในพอร์ตการลงทุนทั่วโลกเช่นเดียวกับการลงทุนใดๆ

 

การทำวิจัยอย่างละเอียดและพิจารณาความเสี่ยงที่เป็นไปได้เป็นสิ่งสำคัญ ทำให้ตลาดหุ้นจีนในปี 2024 เป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณาสำหรับนักลงทุนที่มองไปข้างหน้า โดย บลจ.ไทยพาณิชย์ มีกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Machine Learning China All Share (SCBMLCAA) เป็นกองทุนหนึ่งที่น่าสนใจ โดยกองทุนนี้จะใช้หลักการ Factor Investing และ Machine Learning สำหรับการคัดเลือกหลักทรัพย์ เพื่อให้กองทุนสามารถลงทุนตรงในหลักทรัพย์นั้นๆ และทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงของค่าเงิน ไม่ว่าจะเป็นสกุล CNY, HKD และ USD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

หมายเหตุ: 

  • การลงทุนในกองทุนรวมมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนการลงทุน
  • ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมและหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการที่ บลจ.ไทยพาณิชย์ โทร. 0 2777 7777
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising