Captain America: Brave New World ผลงานลำดับที่ 4 ของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ชุด Captain America จาก Marvel Studios กับภารกิจปกป้องโลกของ Captain America คนใหม่อย่าง Sam Wilson ที่ได้ Anthony Mackie กลับมาสวมโล่อีกครั้ง พร้อมด้วย Harrison Ford ที่จะมาสวมบทเป็น Thaddeus Ross ต่อจากนักแสดงผู้ล่วงลับ William Hurt โดยได้ Julius Onah จาก The Cloverfield Paradox (2018) และ Luce (2019) มานั่งแท่นผู้กำกับ

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Thaddeus Ross ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ หมายมั่นที่จะโน้มน้าวประเทศมหาอำนาจมาร่วมเซ็นสัญญาการใช้แร่ล้ำค่าอย่างอดาแมนเทียมที่ถูกพบในร่างของเซเลสเชียล แต่ในระหว่างการประชุม Thaddeus Ross ก็ถูก Isaiah Bradley (Carl Lumbly) อดีตทหารซูเปอร์โซลเยอร์ลอบโจมตี Sam Wilson จึงต้องออกตามหาคนร้ายตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว 

ทุกครั้งที่ภาพยนตร์หรือซีรีส์เรื่องใหม่ของ Marvel Studios ออกฉาย คำถามแรกๆ ที่มักจะเกิดขึ้นคือ ‘เราต้องกลับไปตามเก็บผลงานเรื่องไหนก่อนบ้าง’ ซึ่งบางเรื่องเราก็จำเป็นต้องกลับไปทบทวนเรื่องราวเก่าๆ ที่เชื่อมโยงกัน เพื่อจะได้เข้าใจและอินกับผลงานใหม่มากขึ้น ขณะที่บางเรื่องไม่จำเป็นต้องกลับไปทบทวนก็สามารถสนุกไปกับผลงานใหม่ได้ทันที 

ในกรณีของ Captain America: Brave New World ถือเป็นผลงานที่จัดอยู่ในหมวดแรกคือ เป็นผลงานที่เรา ‘จำเป็น’ ต้องกลับไปย้อนดูผลงานเก่าๆ ของ Marvel Studios เพราะตัวภาพยนตร์มีการเชื่อมโยงถึงเหตุการณ์และตัวละครสำคัญจากผลงานก่อนหน้าพอสมควร โดยเฉพาะ The Incredible Hulk (2008) กับเรื่องราวของ Samuel Sterns (Tim Blake Nelson) นักวิทยาศาสตร์ที่โดนเลือดของ Bruce Banner เข้าไปจนกลายเป็นตัวร้ายอัจฉริยะนาม The Leader รวมถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่าง Ross และ Betty Ross ผู้เป็นลูกสาว

หรือซีรีส์ The Falcon and the Winter Soldier (2021) ที่บอกเล่าเส้นทางของ Sam ที่ปฏิเสธตำแหน่ง Captain America เพราะคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสม ก่อนที่เหตุการณ์ต่างๆ จะทำให้เขากลับมาสวมโล่และกลายเป็น Captain America คนใหม่ รวมถึงเรื่องราวของ Isaiah Bradley อดีตทหารที่ได้รับเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์ แต่กลับถูกกองทัพมองข้ามและพยายามลบชื่อของเขาออกจากหน้าประวัติศาสตร์

ซึ่งการหยิบนำเหตุการณ์ในผลงานก่อนหน้ามาเชื่อมโยงและขยายในครั้งนี้ ก็ทำให้ภาพยนตร์มีจุดเด่นที่น่าติดตามพอสมควร

จุดเด่นประการแรก (และน่าจะเป็นจุดแข็งที่สุดของเรื่อง) คือเรื่องราวและปมปัญหาของตัวละครที่นำเสนอได้น่าติดตาม ทั้งเรื่องราวของ Thaddeus Ross ที่เคยมีความขัดแย้งกับลูกสาว จนกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เขาพยายามจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อให้กลับมาเป็นที่ยอมรับของลูกสาวอีกครั้งในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ 

ขณะเดียวกันเรื่องราวของ Isaiah Bradley ที่เป็นชนวนสำคัญของเหตุการณ์ในภาคนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเขาและ Sam ที่เสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ซึ่งประเด็นนี้เองที่ช่วยส่งให้การสืบหาความจริงของ Sam Wilson เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับ Isaiah Bradley ดูมีน้ำหนักและน่าติดตามมากขึ้นไปด้วย รวมถึงเรื่องการแบกรับความคาดหวังและภาระหน้าที่ของ Sam Wilson ในฐานะ Captain America คนใหม่ ที่แม้จะดูสูตรสำเร็จไปบ้าง แต่ตัวภาพยนตร์ก็สามารถต่อยอดและนำเสนอออกมาได้อย่างน่าสนใจ

แน่นอนว่าการเชื่อมโยงเรื่องราวเหล่านี้ก็มีข้อสังเกตเช่นกัน เพราะสำหรับใครที่หลงลืมเนื้อหาในภาค The Incredible Hulk ไปบ้าง หรือไม่เคยดูซีรีส์ The Falcon and the Winter Soldier มาก่อน แล้วตัดสินใจมาดูภาพยนตร์เรื่องนี้เลย ประเด็นของตัวละครต่างๆ ที่เป็นจุดเด่นเหล่านี้ก็อาจจะเบาบางลงไม่น้อย 

พูดถึงตัวละครหลักอย่าง Sam Wilson ที่รับบทโดย Anthony Mackie ก็ถือเป็น Captain America คนใหม่ที่แตกต่างไปจาก Steve Rogers ของ Chris Evans อย่างสิ้นเชิง เราอาจจะคุ้นชินกับภาพของ Steve Rogers ที่มักจะมาพร้อมกับความสุขุมรอบคอบและซีเรียสจริงจัง แต่สำหรับ Sam Wilson จะมีคาแรกเตอร์ที่ดูผ่อนคลายและสนุกสนานกว่า เน้นบุกทะลวงมากกว่า ซึ่ง Anthony Mackie ก็นำเสนอบทบาท Captain America ในฉบับของตัวเองได้อย่างโดดเด่น จนทำให้เราเชื่อได้ว่าเขาจะเป็นตัวละครสำคัญที่ขับเคลื่อนจักรวาล MCU ต่อไปได้อย่างแน่นอน 

ส่วนข้อสังเกตสำคัญเห็นจะเป็นตัวร้ายของเรื่องอย่าง Samuel Sterns หรือ The Leader ที่ดูเหมือนผู้กำกับและทีมสร้างจะพยายามสร้างตัวละครนี้ให้เดินรอยตามตัวร้ายคนก่อนอย่าง Baron Zemo ในแง่ของการเป็นตัวร้ายที่ชักใยทุกอย่างอยู่เบื้องหลัง เน้นวางกลยุทธ์และกลลวงเพื่อเอาชนะเหล่าฮีโร่ 

แต่พวกเขากลับนำเสนอ The Leader ออกมาธรรมดาไปสักหน่อย ทั้งรูปแบบแผนการของเขาที่ ‘ดูเหมือน’ จะเต็มไปด้วยปริศนาที่กลุ่มพระเอกต้องแก้ไข พร้อมกับระแวดระวังว่าใครไว้ใจได้บ้าง ซึ่งมันก็ช่วยให้ช่วงต้นเรื่องดูน่าติดตาม แต่พอเรื่องราวดำเนินไปเรื่อยๆ เรากลับรู้สึกว่าแผนการหรือการกระทำต่างๆ ของ The Leader ก็ไม่ได้โชว์ความอันตรายหรือความอัจฉริยะของตัวละครออกมาเท่าไรนัก โดยเฉพาะการเฉลยปมปัญหาที่เรารู้สึกเฉยๆ จนทำให้ The Leader เป็นตัวร้ายที่ดูไม่มีเสน่ห์ 

กลายเป็นว่าตัวร้ายที่ดูโดดเด่นและน่าสนใจมากกว่าคือ Sidewinder ที่รับบทโดย Giancarlo Esposito ที่แม้จะออกมาไม่เยอะ แต่ทุกการปรากฏตัวของเขากลับดูน่าสนใจ และชวนให้เราอยากทำความรู้จักแง่มุมของเขามากกว่าตัวร้ายหลักเสียอีก 

อีกหนึ่งข้อสังเกตที่ผู้เขียนแอบติดขัดคือฉากการเผชิญหน้ากันระหว่าง Captain America และ Red Hulk เราพอเข้าใจว่าเมื่อเป็นการต่อสู้กับ Red Hulk มันจะต้องเป็นฉากแอ็กชันที่ดุเดือดเร้าใจให้สมกับความแข็งแกร่งของเจ้ายักษ์แดง ซึ่งผู้กำกับและทีมสร้างก็นำเสนอฉากดังกล่าวมาได้ไม่แย่นัก แต่ขณะเดียวกันความยิ่งใหญ่ตื่นตาของฉากนี้กลับดูขัดและไม่เหมาะกับบรรยากาศของภาพยนตร์แนวจารชน ที่ผู้กำกับและทีมสร้างพยายามนำเสนอและรักษาไว้ได้ดีมาตลอดทั้งเรื่อง 

ส่วนสิ่งที่เราแอบเสียดายเล็กๆ คือบทบาทของ Ruth Bat-Seraph อดีต Black Widow ซึ่งรับบทโดย Shira Haas ที่ฉากแอ็กชันของเธอน้อยไปหน่อย เพราะดูเหมือนว่าผู้สร้างจะพยายามปูให้เธอมีบทบาทใกล้เคียงกับ Natasha Romanoff ที่คอยช่วยเหลือ Captain America ส่วน Falcon คนใหม่อย่าง Joaquín Torres ที่รับบทโดย Danny Ramirez ก็มีเคมีที่เข้ากันกับ Sam Wilson ทีเดียว ซึ่งเราคงต้องติดตามกันต่อว่าทาง Marvel Studios จะต่อยอดเรื่องราวของพวกเขาต่อไปในทิศทางไหน 

Captain America: Brave New World ถือเป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ต้อนรับปี 2025 ที่สนุกกว่าที่คาดไว้พอสมควร โดยเฉพาะการต่อยอดและขยายเรื่องราวของตัวละครต่างๆ อย่าง Sam Wilson, Thaddeus Ross และ Isaiah Bradley ออกมาได้อย่างน่าสนใจ หรือฉากแอ็กชันเข้มๆ ในช่วงต้นและกลางเรื่องที่ดูสนุก มีจุดที่น่าเสียดายตรงที่ฉากท้ายๆ กลับดูโดดไปจากโทนเรื่องในช่วงแรกสักหน่อย รวมถึงตัวร้ายเองก็ไม่ได้มีเสน่ห์หรือทำให้เรารู้สึกถึงความอันตรายเท่าไรนัก 

ในปีนี้เรายังเหลือภาพยนตร์จาก MCU ที่จ่อคิวเข้าฉายอีก 2 เรื่อง คือ Thunderbolts* ในวันที่ 1 พฤษภาคม และ The Fantastic Four: First Steps ในวันที่ 24 กรกฎาคม ซึ่งคงต้องมาติดตามกันต่อว่าผลงานทั้งสองเรื่องจะปูทางไปสู่ภาพยนตร์ Avengers: Doomsday และ Avengers: Secret Wars อย่างไรบ้าง

หมายเหตุ: ภาพยนตร์มีฉากท้ายเครดิต 1 ตัว 

Captain America: Brave New World เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ 

รับชมตัวอย่าง Captain America: Brave New World ได้ที่: www.youtube.com/watch?v=c9PnbaA6wP4 

ภาพประกอบ: Marvel