ต้องบอกว่า ‘เคราะห์ซ้ำกรรมซัด’ สำหรับ Boeing หลังจากที่เครื่องบิน Boeing 787 ของสายการบิน Air India เที่ยวบินที่ AI171 ตกลงหลังจากบินขึ้นไม่นานที่ท่าอากาศยานอาเมดาบัด ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุครั้งร้ายแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญเสียอากาศยาน (Hull Loss) ครั้งแรกของเครื่องบินแบบนี้
พอได้ยินข่าวนี้ หลายคนก็คงอุทานว่า “Boeing อีกแล้วหรือ?”
เพราะข่าวเชิงลบด้านความปลอดภัยของ Boeing มีมาอย่างต่อเนื่อง และช่วงหลังที่ดูเหมือนจะเริ่มแก้ปัญหาได้แล้ว กลับต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก
แน่นอนว่าสาเหตุคงต้องรอการสอบสวน เนื่องจากภาพที่ปรากฏวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ยากมาก โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องเสียกำลังจริงหรือไม่ ถ้าจริง เพราะเหตุใด เพราะโอกาสที่เครื่องยนต์จะไม่ทำงานพร้อมกันนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากถึงมากที่สุด
ดังนั้นถ้าจะข้ามจากคำถามว่าอุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรไปสู่คำถามที่หลายคนถามมาว่าถ้าไม่มั่นใจใน Boeing จะมีทางเลือกอะไรบ้าง
อย่างแรกที่ต้องบอกก็คือ Boeing 787 มีประวัติด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมมาก แม้อุบัติเหตุครั้งล่าสุดจะมีคนตายมากกว่า 200 คน แต่ต้องบอกว่าอัตราส่วนของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบน Boeing 787 นั้นน้อยกว่าโอกาสที่เราจะเสียชีวิตจากการถูกมดกัดเสียอีก
แต่ถ้ายังไม่มั่นใจจริงๆ ทางเลือกของผู้โดยสารก็คือพยายามหาเที่ยวบินที่บินด้วยเครื่องบินของ Airbus ไม่ว่าจะเป็น A330, A350 หรือ A380 แต่ในกรณีของ A330 นั้นมีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเยอะกว่า Boeing 787 ด้วยซ้ำ
หรือทางเลือกของผู้โดยสารมีแค่นี้จริงๆ?
ส่วนทางเลือกของสายการบินที่ถ้าไม่มั่นใจกับ Boeing 787 จริงๆ จะมีทางหลีกเลี่ยงไปที่ใดได้บ้าง ก็ต้องตอบว่า มีน้อยไม่ต่างกัน
เพราะตามสเปกแล้ว คู่แข่งแบบตรงๆ ของ Boeing 787 ก็คือ A330NEO แต่ถ้าเทียบกับความทันสมัยหรือความใหม่ ก็ต้องไปเทียบกับ A350 แม้ว่า Boeing 787 จะเล็กกว่านิดหน่อยก็ตาม
ถ้าจะเปลี่ยนยี่ห้อของเครื่องบิน สายการบินก็มีเรื่องต้องพิจารณาอีกก็คือ การฝึกนักบิน ลูกเรือ ช่างซ่อมบำรุง อะไหล่ อุปกรณ์สนับสนุนต่างๆ รวมถึงรุ่นและยี่ห้อของเครื่องยนต์ซึ่งมีผลในการตัดสินใจ
นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องสล็อตการผลิต เพราะปัจจุบันเครื่องบินโดยสารขาดแคลนทั่วโลกจากความต้องการการเดินทางหลังโควิด ผู้ผลิตอากาศยานไม่สามารถผลิตได้ทันความต้องการของสายการบิน ซึ่งทำให้หลายสายการบินต้องแก้ปัญหาด้วยการกวาดเช่าเครื่องบินมือสองในตลาดมาใช้งานก่อน หรือไม่ก็ต้องพยายามสั่งซื้อเครื่องบินใหม่ทีละมากๆ เพื่อรับประกันว่าจะมีเครื่องบินให้ใช้งานตามแผนงานในอนาคต
ตัวเลือกในโลกนี้มีแค่นี้จริงๆ เพราะโลกของการบินพาณิชย์ของโลกอยู่ในมือของบริษัทแค่ 6 บริษัทคือ Airbus และ Boeing ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบิน และ GE, CFM, Rolls Royce, และ Pratt & Whitney เพราะนอกจากนั้นก็จะเป็นผู้ผลิตเครื่องบินขนาดเล็กที่มีแต่เครื่องบินลำตัวแคบนำเสนอสู่ตลาดทั้งแบบเครื่องยนต์ไอพ่นและใบพัด
ทำให้ธุรกิจการบินของโลกอยู่ในสภาวะ Duopoly หรือผูกขาดโดยผู้ผลิตแค่สองบริษัทเท่านั้น
ถามว่าไม่มีตัวเลือกอื่นจริงๆ หรือ ก็ต้องตอบว่าไม่จริงเสียทีเดียว เพราะสำหรับเครื่องบินลำตัวกว้างแบบ Boeing 787 นั้น ยังมีรัสเซียซึ่งผลิต IL-96 ที่ออกแบบโดย Ilyushin และผลิตโดย Voronezh Aircraft Production Association หรือ VASO
แต่ปัญหาของ Il-96 ก็คือเป็นเครื่องบินที่เทคโนโลยีต่ำกว่าเครื่องบินของตะวันตกอย่างมาก และยังเป็นเครื่องบิน 4 เครื่องยนต์ ซึ่งไม่นิยมแล้วในปัจจุบัน และมีทั้งรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ของตะวันตกคือ PW2037 และ PW2337 ของ Pratt & Whitney และรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ของรัสเซียเองคือ PS-90A ของ Aviadvigatel ซึ่งจากปัญหาการถูกคว่ำบาตรจากตะวันตกหลังรัสเซียรุกรานยูเครน ทำให้รัสเซียต้องพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ มาทดแทนอุปกรณ์ของตะวันตก ซึ่งก็ทำให้อะไหล่หรือการสนับสนุนต่างๆ มีความยากลำบาก
ที่สำคัญก็คือ Il-96 ไม่เคยก้าวข้ามจากการผลิตแบบ Low-Rate Initial Production หรือการผลิตด้วยกำลังผลิตต่ำในระยะแรกไปสู่ Mass Production หรือการใช้กำลังผลิตเต็มรูปแบบได้เลยนับตั้งแต่เริ่มต้นผลิตในปี 1992 โดยผลิตได้ปีละ 1–2 ลำเท่านั้น บางปีก็ไม่มีการผลิตเลย แม้หลังจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะเป็นแรงบีบบังคับให้รัสเซียต้องหันกลับมาพึ่งพาตนเองมากขึ้น แต่ตามแผนแล้วกำลังผลิตของ Il-96 ก็คือ 12 ลำจนถึงปี 2030 เท่านั้น โดยแบ่งเป็น 2 ลำในปีนี้ 1 ลำ ในปี 2026 สองลำในปี 2027-28 3 ลำในปี 2029 และ 1 ลำในปี 2030 สะท้อนให้เห็นว่า Il-96 แข่งขันในตลาดโลกไม่ได้
ถ้าไม่ใช่เครื่องบินของรัสเซีย จีนซึ่งกำลังก้าวมาเป็นผู้ผลิตเครื่องบินโดยสารรายที่ 3 ของโลกผ่านรัฐวิสาหกิจผลิตอากาศยานอย่าง COMAC และเปิดตัว C909 และ C919 ซึ่งเป็นเครื่องบินลำตัวแคบ พร้อมคำสั่งซื้อจำนวนรวมกันมากกว่า 1,000 ลำจากสายการบินในประเทศ ก็กำลังพัฒนา C929 ซึ่งเป็นเครื่องบินลำตัวกว้างที่ตั้งเป้าว่าจะแข่งขันกับ A330NEO หรือ Boeing 787 โดยตรง แต่ปัจจุบัน C929 ยังอยู่ในสถานะออกแบบอยู่หลังจากที่โครงการประสบปัญหาความล่าช้ามาหลายปีเพราะโครงการเกิดขึ้นจากการร่วมมือระหว่างรัสเซียและจีน และทั้งสองฝ่ายมีปัญหาในการทำงานร่วมกันค่อนข้างมาก ซึ่งหลังจากรัสเซียรุกรานยูเครน ทำให้จีนนำโครงการมาพัฒนาต่อเพียงลำพัง ซึ่งคาดว่าต้นแบบจะบินได้ภายในปี 2030 และกว่าจะได้รับการรับรองมาตรฐานก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปีหลังจากนั้น ทำให้เครื่องบินลำตัวกว้างของ COMAC จะยังไม่พร้อมเข้าสู่ตลาดในอีก 10 ปี
ทำให้สุดท้าย ไม่ว่าจะอย่างไร ในตอนนี้โลกมีแค่สองตัวเลือกเท่านั้นคือ Airbus และ Boeing และว่าจะชอบหรือไม่ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราไม่มีทางเลือกไปอีกอย่างน้อย 10 ปีนับจากนี้ และสำหรับผู้โดยสารอย่างเรา ถ้าไม่มั่นใจใน Boeing จริงๆ ก็ต้องพยายามเลือกเส้นทางการบินที่ใช้ A330 หรือ A350 แต่ถ้าเลือกไม่ได้ ก็ต้องพยายามนึกไว้ว่า ไม่ใช่เครื่องบินทุกแบบของ Boeing ที่มีปัญหา แม้ Boeing 737 MAX จะเกิดปัญหา แต่ Boeing รุ่นอื่นก็ยังน่าเชื่อถือพอ โดยเฉพาะ Boeing 787 ที่มีสถิติความปลอดภัยที่ดีมาก และเรามีโอกาสน้อยมากที่จะประสบกับอุบัติเหตุที่ร้ายแรงกับ Boeing 787 รวมถึงโลกของการบินก็เรียนรู้และปรับตัวมามากพอหลังจากกรณี Boeing 737 MAX
ดังนั้นถือเสียว่า เดินทางให้สบายใจ และโชคร้ายก็คงไม่เกิดขึ้นกับเราหรอก
ภาพ: REUTERS / Randall Hill