เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (14 มีนาคม) OpenAI ได้ประกาศเปิดตัวระบบ AI เวอร์ชันใหม่ GPT-4 บน ChatGPT อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยชูจุดเด่นด้านความสร้างสรรค์ที่มากขึ้น โอกาสในการบิดเบือนข้อมูลที่ลดลง และการลดอคติต่อข้อมูลที่ลดลง เทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้า GPT-3.5
โดย Sam Altman ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ได้เรียกเวอร์ชันดังกล่าวว่าเป็นโมเดลที่ดีที่สุดในตอนนี้ และเป็นระบบ Multimodal ที่สามารถรับทั้งภาพและข้อความปริมาณมหาศาลเป็นข้อมูลขาเข้าได้ (Input)
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้การรับข้อมูลด้วยภาพของ GPT-4 จะยังไม่เปิดใช้ต่อผู้ใช้งานสาธารณะ แต่จะทดสอบกับพาร์ตเนอร์อย่าง Be My Eyes ก่อนในระยะแรก
โดย GPT-4 มีแผนจะเปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ที่จ่ายเงิน (ChatGPT Plus) ในขณะที่นักพัฒนาสามารถลงชื่อไว้สำหรับ Wait-list เพื่อเข้าถึง API ของ AI ดังกล่าว
ทั้งนี้ได้กำหนดราคา 0.03 ดอลลาร์ (ประมาณ 1 บาท) ต่อ 1,000 ‘Prompt’ โทเคน หรือประมาณ 750 คำ และในราคา 0.06 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.8 บาท) ต่อ 1,000 ‘Completion’ โทเคน ประมาณ 750 คำเช่นเดียวกัน
โดยจะมีพาร์ตเนอร์ของ OpenAI นำ GPT-4 เข้าไปใช้ เช่น Stripe, Duolingo, Morgan Stanley รวมไปถึง Microsoft ก็ได้ออกมายืนยันว่าผลิตภัณฑ์อย่าง Bing Chat จะนำ GPT-4 เข้าไปใช้เช่นกัน
นอกจากนี้ตัว GPT-4 ยังสามารถประมวลผล ‘ในระดับมนุษย์’ ในสาขาวิชาเฉพาะทางต่างๆ โดยล่าสุดสามารถทำข้อสอบเนติบัณฑิตในสหรัฐอเมริกาได้คะแนน Top 10% จากที่เวอร์ชันก่อนหน้าอย่าง GPT-3.5 สอบผ่าน แต่ได้คะแนนเพียง 10% ล่างเท่านั้นเอง
และข่าวดีสำหรับประเทศไทย ภาษาไทยถูกเลือกเป็นหนึ่งใน 26 ภาษาที่ GPT-4 จะเน้นพัฒนา แม้จะเป็นหนึ่งในภาษาที่ฝึกหัดได้ยากกว่าภาษาอื่นๆ ก็ตาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เลขาและล่ามอาจตกงาน! เมื่อ Microsoft เปิดตัว Teams Premium ที่ผสานพลัง ChatGPT จนสามารถสร้าง ‘บันทึกการประชุมอัตโนมัติ’ แถมยัง ‘แปลสด’ ได้มากถึง 40 ภาษา
- สงคราม ‘AI’ แชตบอตเดือด Baidu เปิดตัว ‘ERNIE Bot’ ท้าชน ‘ChatGPT’ ของ OpenAI และ ‘Bard’ ของ Google
- ยังไม่ช้า (เกินไป) ใช่ไหม? Google เปิดตัว ‘Bard’ แชตบอตปัญญาประดิษฐ์ที่เกิดขึ้นมาเพื่อสู้กับ ChatGPT โดยเฉพาะ
อ้างอิง: