ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ (12 ตุลาคม) ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 0.8% หรือ 13 จุด มาอยู่ที่ระดับ 1,646 จุด จากแรงซื้อที่เข้ามาในหุ้นกลุ่มเปิดเมือง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสายการบิน กลุ่มโรงแรม และกลุ่มค้าปลีก โดยหุ้นที่ปรับขึ้นนำตลาด คือ
- AOT เพิ่มขึ้น 4.28% มาอยู่ที่ระดับ 67.00 บาท
- CPALL เพิ่มขึ้น 2.36% มาอยู่ที่ระดับ 65.00 บาท
- AAV เพิ่มขึ้น 9.79% มาอยู่ที่ระดับ 3.14 บาท
- MINT เพิ่มขึ้น 3.76% มาอยู่ที่ระดับ 34.50 บาท
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส (ASPS) ระบุว่า แถลงการณ์ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ประกาศเตรียมเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งจะเริ่มจาก 10 ประเทศความเสี่ยงต่ำก่อน ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ และเตรียมผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยการเปิดสถานบันเทิง อนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ได้ในร้านอาหารภายในวันที่ 1 ธันวาคม เชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมี Downside ที่จำกัดมากขึ้น เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาและความเชื่อมั่นของประชาชนฟื้นตัว
สอดคล้องกับปัจจุบัน รายงานการเดินทางของประชาชนจาก Google (Google Mobility Trend) ฟื้นตัวขึ้นมาในระดับใกล้เคียงกับภาวะก่อนเกิดการระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตา ซึ่งเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ที่ขยับขึ้นมาใกล้กรอบแนวต้านเดิมโซน 1,660 จุด
บล.เอเซียพลัส เชื่อว่าแผนการรับนักท่องเที่ยวและผ่อนคลายกิจกรรมเศรษฐกิจล่าสุดของนายกรัฐมนตรีจะช่วยให้ Google Mobility และ SET Index ฟื้นตัวผ่านแนวต้านที่สำคัญนี้ขึ้นไปได้
สำหรับกลุ่มหุ้นที่ได้อานิสงส์จากแผนการเปิดประเทศดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มโรงแรม ประเมินว่า แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามายังขึ้นอยู่กับนโยบายของประเทศคู่ค้าว่าเอื้อให้เกิดการเดินทางมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะจีน อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยมองว่า ไทม์ไลน์การเปิดประเทศที่ชัดเจนจะสร้างความเชื่อมั่นและการวางแผนเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ อีกทั้งเร็วกว่าสมมติฐานที่ฝ่ายวิจัยมองไว้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2565
“คาดว่าจะเห็นผลบวกชัดเจนในช่วงไตรมาสแรกปี 2565 ที่โดยปกติเป็นไฮซีซันของท่องเที่ยวไทย โดยโรงแรมที่ได้อานิสงส์มากสุดคือ ERW ที่มีสัดส่วนรายได้ราว 90% ตามด้วย CENTEL ที่มีรายได้จากโรงแรมไทยราว 80% และ MINT ที่โครงสร้างโรงแรมมาจากยุโรปเป็นหลัก แต่มีภาพการฟื้นตัวเร็วกว่าไทย”
สำหรับราคาที่เหมาะสมในปี 2565 บล.เอเซียพลัส ให้ ERW ที่หุ้นละ 3.7 บาท CENTEL หุ้นละ 43 บาท และ MINT หุ้นละ 36 บาท
