วันนี้ (8 พฤษภาคม) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมกับวัน แชมเปียนชิพ (ONE) ประเทศไทย และสนามมวยเวทีลุมพินี แถลงวิสัยทัศน์และทิศทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมมวยไทยให้ก้าวไปสู่ระดับสากล หลังจากเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทยได้แสดงความกังวลต่อการใช้ชื่อเรียกกีฬามวยไทยในการแข่งขันของ ONE เนื่องจากมีการชก 3 ยก ใส่นวมขนาดเล็กแบบเปิดนิ้ว ที่อาจไม่ตรงกับมวยไทยอัตลักษณ์เดิมที่แข่งขันแบบชก 5 ยก และใช้นวมที่มีขนาดใหญ่กว่า ทำให้ไม่เหมาะสมที่จะเรียกชื่อกีฬาว่าเป็นมวยไทย
โดยความกังวลที่เกิดขึ้นเริ่มจากกรณีของนวมขนาด 4 ออนซ์ ทำให้ อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์ กรรมการผู้จัดการ วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย และ จิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย ได้ออกมาชี้แจงถึงการตัดสินใจใช้นวมที่มีขนาดเล็กกว่ามวยไทยปกติที่ 8-10 ออนซ์ว่า ได้สำรวจข้อมูลและพบว่าการใช้นวมขนาดเล็กอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่มือได้ แต่มีโอกาสป้องกันอาการบาดเจ็บระยะยาวกับสมองได้มากกว่า เนื่องจากนักมวยจะป้องกันตัวดีขึ้น โดยเฉพาะ Head Movement หรือการขยับหัวหลบหมัด ชก รวมถึงการใช้นวมขนาดเล็กส่งผลให้การจับท่าต่างๆ ในศิลปะมวยไทยทำได้ง่ายขึ้น ขณะที่ความเสี่ยงของนวมขนาดที่ใหญ่ขึ้นคือน้ำหนักที่มากขึ้นของหมัด และมีโอกาสสร้างอาการบาดเจ็บสะสมให้กับสมอง แต่ยืนยันว่าไม่ปิดโอกาสที่จะปรับเปลี่ยนนวมในอนาคต
ในเรื่องของความปลอดภัยสำหรับการแข่งขัน ONE ยืนยันว่าได้มีการตรวจร่างกายนักกีฬาทุกครั้งก่อนขึ้นชก เพื่อจะตรวจสอบ CT สแกนสมอง ตรวจการทำงานของหัวใจ และการมองเห็น เพื่อการันตีว่านักมวยพร้อมขึ้นชก รวมถึงในวันชั่งน้ำหนักจะมีการตรวจสอบระดับน้ำในร่างกาย เพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับการตรวจและรักษานักมวย ทาง ONE จะเป็นคนดูแลออกค่าใช้จ่าย เพื่อความปลอดภัยของนักมวย
ในแง่ของกติกาการแข่งขัน ONE ได้ชี้แจงว่ากีฬาทุกชนิดที่จะยกระดับไปสู่การแข่งขันสากล มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกฎบางอย่างเพื่อให้เข้ากับสากล โดยใน ONE เองมีการส่งเสริมการใช้ภาษาไทย ที่ผู้ตัดสินจะต้องใช้คำว่า ‘ชก’ เพื่อเริ่มแข่งขัน รวมถึงมีการไหว้ครูก่อนชกอีกด้วย
ส่วนเรื่องของการพัฒนาอุตสาหกรรม ทาง ONE มีเป้าหมายที่จะสร้างการแข่งขัน ONE ทั้ง 3 ระดับให้เป็นลีกกีฬาอาชีพได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยเริ่มจาก Road to ONE ที่เป็นรายการเฟ้นหานักมวยเพื่อเข้ามาแข่งขันในระดับ ONE Lumpinee ที่เป็นเหมือนลีกระดับชาติ และต่อยอดไปสู่ ONE FIGHT NIGHT ลีกสูงสุดระดับโลก ที่ล่าสุดเพิ่งไปจัดการแข่งขันครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ก่อนที่ ONE จะทิ้งท้ายว่า อยากให้ทุกท่านเปิดใจเพื่อร่วมกันพัฒนามวยไทยและต่อยอดการแข่งขันให้เป็นที่นิยมไปทั่วโลก โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับผู้คนในวงการมวย และสร้างฮีโร่นักมวยไทยให้โด่งดังไปทั่วโลก เหมือนกับนักกีฬาอย่าง ไมเคิล จอร์แดน จากบาสเกตบอล NBA และ เดวิด เบ็คแฮม จากฟุตบอลอาชีพ
หลังจบงานแถลง ทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย ได้เปิดเผยกับ THE STANDARD ว่า
“ล่าสุดคือทางฝ่ายสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยก็พิจารณารายละเอียดต่างๆ เสร็จหมดแล้ว เหลือแค่ที่เราจะมาพูดคุยร่วมกันเพื่อทำความเข้าใจในสิ่งที่เห็นต่างกัน แต่ว่าเจตนาของทุกคนหวังดีหมดครับ การที่มีความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของนักมวย ซึ่งเป็นเรื่องหลักที่มีความเป็นห่วง วันนี้เราได้ฟังข้อมูลแล้วว่าฝ่าย ONE ได้ดำเนินการอย่างไรเพื่อป้องกันและดูแลความปลอดภัยของนักมวยบ้าง
“ต่อมาคือการใช้ชื่อมวยไทย ซึ่งความเห็นต่างจุดนี้เรามองเห็นโอกาสของมวยไทยที่จะสร้างกระแสความรับรู้ไปทีเดียวหลายร้อยล้านคน อันนี้ก็ต้องสามารถที่จะทำความเข้าใจร่วมกันได้ เราก็ไม่ปฏิเสธในเรื่องความหวังดี เพียงแต่ว่าเรามีหน้าที่ให้เห็นถึงประโยชน์ที่มวยไทยจะได้รับ แน่นอนทุกอย่างมีข้อดี ข้อเสีย เราก็ต้องมาดูว่าผลดีมันมากกว่าผลเสียหรือไม่ แล้วทำความเข้าใจร่วมกัน”