วันนี้ (12 กันยายน) ONE Championship องค์กรสื่อกีฬาระดับโลก แถลงข่าวผนึกกำลังกับสนามมวยเวทีลุมพินี เปิดประวัติศาสต์หน้าใหม่ให้กับวงการมวยไทย เตรียมระเบิดศึก ‘ONE Lumpinee’ ทีสนามมวยเวทีลุมพินี รามอินทรา กรุงเทพมหานคร โดยมีเหล่าโปรโมเตอร์ หัวหน้าคณะ ค่ายมวย นักมวยไทย บุคลากรในวงการกีฬาทั้งภาครัฐและเอกชน สื่อมวลชน ตลอดจนแฟนคลับ เดินทางมาร่วมงานกว่า 1,000 คน
โดย ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้ง ประธาน และ ซีอีโอ ของ ONE ประกาศเตรียมสร้างมาตรฐานโปรดักชันระดับโลก ยกระดับวงการมวยไทยโดยบิ๊กบอสใหญ่ และเตรียมจัดศึกปฐมฤกษ์เดือนมกราคมปีหน้า ในรูปแบบอินเตอร์เนชันแนลไฟต์ ที่รวบรวมศิลปะการต่อสู้อันหลากหลาย ทั้ง มวยไทย มิกซ์มาเชียลอาร์ต (MMA) คิกบ็อกซิ่ง ฯลฯ ยิงสด 154 ประเทศทั่วโลก ผู้ชมมากกว่า 60 ล้านคนในทุกแพลตฟอร์ม
ในความร่วมมือครั้งนี้ ทาง ONE ได้ทุ่มเงินลงทุน 3,600 ล้านบาท ในแผนการผลักดันวงการมวยไทยทั่วโลก เตรียมจัดศึก ONE Lumpinee ทุกวันศุกร์ ไม่ต่ำกว่าปีละ 52 ครั้ง ที่สนามมวยลุมพินี เริ่มนัดแรกในเดือนมกราคม 2566 และถ่ายทอดสดยิงสัญญาณไปให้ผู้ชมทั่วโลกจำนวน 154 ประเทศ
รวมถึงประกาศว่า ONE Lumpinee จะมีการจ่ายค่าตัวนักมวยไทยที่เข้าแข่งขันสูงที่สุดในประเทศไทย มากกว่า 50% จากเรตที่ได้ตามปกติ เพื่อเป้าหมายการยกระดับคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของนักกีฬา พร้อมเปิดกว้างให้ค่ายมวยทุกแห่งทั่วประเทศส่งนักมวยเข้าแข่งขัน หากใครทำผลงานได้ดีก็จะมีโอกาสก้าวเข้ามาเป็นนักกีฬาในสังกัดของ ONE หรือลงแข่งขันชิงแชมป์ในทัวร์นาเมนต์อื่นๆ ของ ONE ได้ในอนาคต
นอกจากนี้ THE STANDARD ได้สอบถามชาตรีถึงประเด็นเรื่องของแผนการดึงดูดแฟนกีฬาเข้าสังเวียนเวทีลุมพินี ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงเทพมหานคร อาจเป็นอุปสรรคสำหรับแฟนหมัดมวยทั้งที่จากไทยเอง และที่เดินทางมาในฐานะนักท่องเที่ยว
ซึ่งชาตรีได้เปิดเผยว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของ ONE Lumpinee คือการถ่ายทอดมวยไทยไปให้กับแฟนกีฬา 154 ประเทศทั่วโลก ยอดผู้ติดตามจากทั่วโลก แน่นอนว่าบรรยากาศสนามดีอยู่แล้ว และเป็นสิ่งที่ดี แต่เป้าหมายของ ONE คือการถ่ายทอดเรื่องราวของนักกีฬามวยไทยไปยังสายตาผู้คนทั่วโลก
ด้าน พล.อ. สุชาติ แดงประไพ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก (มวยไทยลุมพินี) เปิดเผยว่า “เราหวังที่จะเห็นมวยไทย ซึ่งไม่มีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อที่จะผลักดันมวยไทยให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์สู่ระดับโลก เราจึงมองหาโปรโมเตอร์ที่จะช่วยสร้างความสำเร็จนี้ให้เกิดขึ้นได้จริง จึงได้เชิญ ONE ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก มาเป็นโปรโมเตอร์จัดศึก ONE Lumpinee ในครั้งนี้
“แฟนๆ จะได้เห็นโปรดักชันดีไซน์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในวงการมวยไทย โดยจะมีการจัดแข่งขันเกิดขึ้นทุกสัปดาห์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักกีฬาได้ลงแข่งขันอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมมวยไทยแล้ว ยังเป็นเหมือนสะพานที่เชื่อมวงการมวยไทยไปสู่ระดับโลกด้วย” พล.อ. สุชาติกล่าว
