จังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือเป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวชื่อดังของชาวต่างชาติในช่วงสถานการณ์ปกติด้วยเสน่ห์ของนครเก่าแก่ ก่อนวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19
ตลอดเวลา 417 ปี พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นราชธานีของอาณาจักรอยุธยา ก่อนที่ปัจจุบันจะกลายเป็นจังหวัดที่ผู้คนเดินทางเข้ามาสักการะบูชาไหว้พระตามวัดต่างๆ และเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
แต่หลังจากที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในแทบทุกประเทศต้องหยุดชะงักตัวลง ภายในกรุงเก่าแห่งนี้จึงได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นเดียวกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ภายในประเทศไทย
จากการลงพื้นที่และสอบถามเบื้องต้นกับทางเจ้าหน้าที่ภายในวัดใหญ่ชัยมงคลพบว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เปิดวัดในวันที่ 22 พฤษภาคม นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยวัดในพื้นที่ส่วนใหญ่จะมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการให้ทุกคนสวมใส่หน้ากาก ตรวจเช็กอุณหภูมิ และสแกนคิวอาร์โค้ด หรือลงทะเบียบก่อนเข้าชมวัด
ขณะที่วัดอื่นๆ ภายในจังหวัด จากที่ THE STANDARD ลงพื้นที่ พบว่า ประชาชนชาวไทยเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนในวัดพระศรีสรรเพชญ์ อดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณ อยุธยา ได้เห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ก็พบว่า เป็นชาวต่างชาติที่ตกค้างอยู่ภายในประเทศไทย
ด้านตลาดท้องถิ่นอย่างย่านตลาดหัวรอ ตลาดเก่าแก่ชื่อดังของจังหวัด ได้เจอกับป้ายขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการและผู้ซื้อสินค้าสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างจากกันไม่น้อยกว่า 1 เมตร และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ตามจุดบริการ ซึ่งพบว่าผู้ประกอบการสวมใส่หน้ากาก พร้อมกับมีขวดเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการตามหน้าร้านต่างๆ
ขณะที่กิจกรรมการนั่งช้างชมเมือง ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในครั้งนี้เราได้พบเห็นนักท่องเที่ยวชาวไทยร่วมกิจกรรมในพื้นที่ใกล้เคียงกับ หมู่บ้านช้างอโยธยาที่บริเวณตลาดน้ำอโยธยา
