วันนี้ (21 สิงหาคม) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมกับ ปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด และตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดชาวเวียดนาม พร้อมของกลางเคตามีน 5.2 กิโลกรัม, ยาอี และอุปกรณ์ผลิตยาครบชุด
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการเฝ้าระวังเครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวเวียดนามที่อาจเข้ามาเคลื่อนไหวในไทย หลังจากการประชุมทวิภาคีไทย-เวียดนาม พบว่ามีการกวาดล้างและจับกุมผู้ผลิตยาเสพติดในเวียดนามอย่างหนัก ทำให้คาดว่านักค้ายาเหล่านี้อาจย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย
การจับกุมเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ร่วมกับกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจยึดคีตามีนจำนวน 5.2 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนมาในพัสดุระหว่างประเทศจากเนเธอร์แลนด์ โดยทำทีเป็นถุงขนม เจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลและเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งวันที่ 18 สิงหาคม ได้เข้าจับกุมชายชาวเวียดนาม 2 คน ที่มาติดต่อรับพัสดุ
จากนั้นได้ขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านเช่าย่านลาดพร้าว พบผู้ต้องหาชาวเวียดนามเพิ่มอีก 2 คน รวมจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 คน พร้อมของกลาง ยาอี 514 เม็ด, ผงยาอี, เครื่องอัดเม็ดยาอัตโนมัติที่สามารถผลิตได้วันละกว่า 1 แสนเม็ด และหัวตอกโลโก้ยี่ห้อต่างๆ
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การว่าเตรียมนำคีตามีนมาผสมกับ MDMA เพื่อผลิตเป็นยาอีสำหรับจำหน่ายในสถานบันเทิงเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งยาที่ผสมแล้วหากเสพร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือน้ำหวานอาจส่งผลให้หัวใจวายเฉียบพลันถึงขั้นเสียชีวิต นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายาอีบางส่วนถูกลักลอบส่งกลับไปยังเวียดนามแล้วด้วย
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ย้ำว่า ป.ป.ส. ยังคงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่พยายามใช้ไทยเป็นทางผ่านอย่างต่อเนื่อง