เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา หุ้นของ บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ หรือ OKJ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก เปิดการซื้อขายที่ 10.10 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดของวัน บวก 51% จากราคา IPO ที่ 6.70 บาท โดยระหว่างการซื้อขายของวันราคาบวกขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 12.50 บาท บวก 87% จากราคา IPO ก่อนจะมาปิดการซื้อขายที่ 12.40 บาท บวก 85.07%
ชลากร เอกชัยพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OKJ กล่าวว่า แผนงาน 5 ปี (2567-2571) บริษัทจะขยายสาขาทั้ง 3 แบรนด์ แบ่งเป็นจะลงทุนขยายสาขาร้านอาหารแบรนด์โอ้กะจู๋เพิ่มเป็น 67 สาขา จากปัจจุบันที่มี 37 สาขา, ขยายสาขาแบรนด์ OHKAJHU WRAP and ROLL ให้ครบ 20 สาขา จากปัจจุบันมี 1 สาขา และขยายสาขาแบรนด์ Oh! Juice ให้ครบ 70 สาขา จากปัจจุบันมี 8 สาขา ส่งผลให้มีสาขารวมทั้งสิ้น 157 สาขาภายในปี 2571 เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และเมืองท่องเที่ยวสำคัญ
ทั้งนี้จะส่งผลให้โครงสร้างรายได้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ส่วนของ New Business จะมีสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มเป็นกว่า 25% ของรายได้ทั้งหมด จากปัจจุบันที่ราว 5% และรายได้จากแบรนด์โอ้กะจู๋ที่เป็นรายได้หลักจะมีสัดส่วนลดลงเหลือ 75% จากปัจจุบันที่กว่า 95%
นอกจากนี้พร้อมมองโอกาสเข้าซื้อกิจการ (M&A) หรือร่วมลงทุนกับพาร์ตเนอร์ ซึ่งอยู่ระหว่างพูดคุย 2-3 ดีล หลากหลายธุรกิจ ทั้งธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม และอื่นๆ คงยังไม่เห็นในปีนี้
อีกทั้งการมีพันธมิตรอย่าง บมจ.น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR ได้เข้ามาช่วยในหลายด้าน มีทีมงานร่วมกันมากขึ้น OR ซัพพอร์ตทั้งการวิเคราะห์ข้อมูล, การขยายสาขา และการเพิ่มผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายในร้าน Café Amazon ที่มีการนำเอาสินค้าไปวางจำหน่าย 450 สาขา
ขณะที่วันที่ 4 ตุลาคม OKJแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทได้รับแจ้งจากผู้ถือหุ้นของบริษัทว่า Modulus บริษัทย่อยของ OR ได้ดำเนินการซื้อหุ้น Big Lot ของ OKJจากผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท จำนวน 31.80 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.22% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ OKJภายหลังการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในราคาเดียวกับราคา IPO ที่ 6.70 บาทต่อหุ้น ในวันแรกที่หุ้น OKJเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) ซึ่งการซื้อหุ้นดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อคงสัดส่วนการถือหุ้นของ Modulus ที่ 20%
ทั้งนี้เป็นไปตามที่บริษัทได้เปิดเผยในแบบไฟลิ่งบริษัทเกี่ยวกับการเข้าทำสัญญาซื้อขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหลังรายการดังกล่าวส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นใน OKJของ Modulus และผู้ร่วมก่อตั้งของบริษัท เป็นดังนี้
สัดส่วนการถือหุ้นใน OKJ ของ Modulus และผู้ร่วมก่อตั้งของบริษัท หลังรายการ Big Lot
