ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตอบรับอานิสงส์จากยอดการกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 ทั่วโลกที่สูงขึ้น และการเปิดประเทศอีกครั้งของหลายประเทศสำคัญทั่วโลก ซึ่งชดเชยปัจจัยลบจากอินเดียที่ยังคงเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคานำ้มันดิบในตลาดล่วงหน้าปรับขยับขึ้น 1.4% และสามารถทรงตัวอยู่ได้ สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก โดยล่าสุดสหภาพยุโรปมีแผนที่จะผ่อนปรนมาตรการสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางข้ามประเทศในช่วงฤดูร้อนนี้ ส่วนนิวยอร์กและอีกหลายรัฐในสหรัฐอเมริกาเริ่มผ่อนคลายมาตราการควบคุมต่างๆ
ปัจจัยบวกดังกล่าว สามารถชดเชยผลกระทบจากโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศอินเดีย รวมถึงประเทศแถบเอเชียอื่นๆ ที่กำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดขึ้นอีกครั้งได้
ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปี 2564 น้ำมันดิบกลับขึ้นมาเป็นสินค้าโภคภัณฑ์แถวหน้าอีกครั้ง และเอาชนะสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นโลหะหรือพืชผลทางการเกษตร สาเหตุหลักมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้นเมื่อได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการกระจายวัคซีนของหลายประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้และสามารถเปิดประเทศได้อีกครั้ง
โดย WTI ในเดือนเมษายน ปรับเพิ่มขึ้น 7.5% หลังจากที่ปรับขึ้นไปแล้ว 22% ในไตรมาสแรกของปี ซึ่งสะท้อนถึงสัญญาณขาขึ้นได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ความเชื่อมั่นนี้ถูกตอกย้ำด้วยถ้อยแถลงของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed เมื่อวันจันทร์ ที่ย้ำว่าเศรษฐกิสหรัฐฯ กำลังฟื้นตัวอย่างแท้จริง
เจฟฟรีย์ ฮัลลีย์ นักวิเคราะห์อาวุโส จาก OANDA Asia Pacific กล่าวว่า ความต้องการใช้น้ำมันในอินเดียตอนนี้ปรับลดลงซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ แต่ตลาดก็เชื่อว่าจะผ่านสภาวการณ์นี้ไป เนื่องจากอีกหลายประเทศที่มีกำลังซื้อที่เข้มแข็งกำลังดำเนินการกระจายวัคซีนเพื่อให้สามารถกลับมาเปิดประเทศได้อีกครั้ง
การฟื้นตัวของราคาน้ำมันในเดือนพฤษภาคมนี้ ทำให้กลุ่มโอเปก (Organization of Petroleum Exporting Countries: OPEC) กลับมามีศักยภาพในการบริหารจัดการด้านการผลิตและสำรองน้ำมันดิบอีกครั้ง โดยล่าสุดอิรักซึ่งมีกำลังการผลิตมากเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มโอเปก ออกมาคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มจะทรงตัวอยู่ที่ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลตลอดเดือน
อย่างไรก็ตามปัจจัยลบต่อราคาน้ำมันยังมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขในอินเดีย ขณะที่ประธานาธิบดีอินเดียยังคงไม่ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ เช่นเดียวกันประเทศอื่นๆ ในเอเชียอื่น ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น ไทย สปป.ลาว เนปาล ที่ยังมียอดผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงขึ้นต่อเนื่อง
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง: