×

ในความแตกต่างระหว่าง มาร์ติน โอเดการ์ด กับ บรูโน แฟร์นันด์ส

10.03.2025
  • LOADING...
odegaard-vs-fernandes

ย้อนกลับไปในเกมที่โรงละครแห่งความฝันเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หนึ่งในคู่ประชันที่น่าดูที่สุดคือการพบกันระหว่าง มาร์ติน โอเดการ์ด และ บรูโน แฟร์นันด์ส สองดารานำของยี่เกต่างวิกที่เป็นผู้นำและความหวังของคนร่วมคณะ

 

ที่ผ่านมาก็เคยมีการเปรียบเทียบฝีเท้าและชั้นเชิงการเล่นกันอยู่บ้าง แต่การพบกันครั้งล่าสุดที่ผ่านมามีน้ำหนักความสำคัญที่มากกว่า เพราะต่างต้องแบกรับทีมที่ประสบปัญหาอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา และผลการแข่งขันที่โอลด์แทรฟฟอร์ดมีความหมายอย่างมากสำหรับช่วงที่เหลือของฤดูกาล

 

ผลการประชันปรากฏว่า พ่อหนวดครึ้ม บรูโน แฟร์นันด์ส เป็นฝ่ายชนะ ได้รับเสียงปรบมือและพวงมาลัยอย่างล้นหลามจากผู้ชม ทิ้งให้พ่อหน้ามน มาร์ติน โอเดการ์ด ต้องชอกช้ำระกำทรวงและกลับมาตั้งคำถามกับตัวเอง

 

มันมีบางอย่างที่แตกต่างกันอยู่ระหว่างทั้งสองคน

 

ประสาคนรักเกมลูกหนัง หนึ่งในเรื่องที่เราคุยกันได้สนุกเสมอคือการ ‘ขิง’ กันว่านักเตะคนไหน (ที่เราชอบ) ใครเก่งกว่ากัน

 

ระหว่างแฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับอาร์เซนอล ก็มีการพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติเหมือนกันในการจับคู่กันของ บรูโน แฟร์นันด์ส กับ มาร์ติน โอเดการ์ด ซึ่งนอกจากทั้งคู่จะเป็นกัปตันทีมด้วยกันแล้ว ต่างก็เป็นนักเตะในบท ‘เพลย์เมกเกอร์’ ซึ่งถือเป็นคนสำคัญอย่างยิ่งยวดของทีม

 

เพลย์เมกเกอร์ที่เป็นกัปตันทีมด้วยในเกมฟุตบอลสมัยใหม่นั้นเป็นของที่หาได้ยากแล้ว ไม่เหมือนในอดีตที่นักเตะในบทบาทประมาณนี้มักจะเป็นผู้นำของทีม เพราะคนจะเล่นบทตรงนี้ได้ย่อมเป็นคนที่ต้องเก่งที่สุดในทีม

 

มาร์ติน โอเดการ์ด กับ บรูโน แฟร์นันด์ส

 

ระหว่างบรูโนกับโอเดการ์ด ทั้งคู่มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ไม่ใช่แค่เรื่องของตำแหน่งและบทบาทการเล่น แต่รวมถึงสไตล์การเล่นและบุคลิก

 

สำหรับสตาร์ชาวโปรตุเกส บทบาทที่ถนัดที่สุดคือการเล่นในแบบ ‘หมายเลข 10’ ตัวทำเกมหลักที่มีอิสระในการขับเคลื่อนเกม

 

สิ่งที่ทำให้บรูโนมีความพิเศษมากกว่าตัวทำเกมคนอื่นคือการที่เขามีเท้าขวาที่ฉมังเดช นอกจากจะเตะได้อย่างหนักหน่วง ก็ยังสามารถใส่ลูกเล่นเพิ่มเข้าไปในการเตะได้ด้วย ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของการยิงประตูแต่รวมถึงการเปิดบอล

 

ถ้าเป็นวันที่เข้าฝัก ใครก็ยากจะหยุดบรูโนได้

 

ขณะที่โอเดการ์ดไม่ได้เล่นในบทตัวทำเกมหมายเลข 10 แบบคลาสสิก เพราะตามระบบและสไตล์การเล่นของอาร์เซนอล กัปตันทีมชาวนอร์เวย์จะเล่นในแบบของ ‘หมายเลข 8’ เป็นมิดฟิลด์ตัวขับเคลื่อนเกมจากแดนกลางและเชื่อมการเล่นให้ทั้งทีม

 

ความสามารถพิเศษของเขาคือการเคลื่อนไหวที่พลิ้วไหวเหมือนสายน้ำ สายตาที่มองเห็นช็อตการเล่นล่วงหน้าและเท้าซ้ายที่เหมือนพกตาชั่งติดตัว ออกบอลแต่ละครั้งน้ำหนักจะพอดีเสมอ

 

ที่สำคัญคือความขยันทุ่มเท วิ่งพล่านไปทั่วสนามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย 

 

อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมาทั้งคู่โดนวิพากษ์หนักไม่น้อยจากทั้งสื่อและแฟนบอลของทีมตัวเอง

 

บรูโนโดนถล่มอย่างหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจากคนในวงการด้วยกันเองอย่าง สตีเฟน วอร์น็อก อดีตนักเตะลิเวอร์พูลที่ปัจจุบันเป็นนักวิเคราะห์ให้กับ Sky Sports รวมถึง รอย คีน อดีตกัปตันทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ออกมาสับเป็นชิ้นๆ ประหนึ่งข้าวมันไก่สิงคโปร์

 

ข้อหาของสตาร์โปรตุเกสคือเขาเป็นผู้นำที่ดูไม่น่ารัก ไม่ใช่ผู้นำในแบบอุดมคติ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการเป็นคนนิสัยดีมีไมตรีกับคนอื่นไปทั่ว แต่เป็นผู้นำที่ใช้การกระทำเป็นตัวอย่าง ผู้นำที่พยายามทำให้ทีมเดินหน้าต่อไป ผู้นำที่จะไม่สร้างบรรยากาศแย่ๆ จนทำให้คนอื่นพาลจะไม่อยากเล่นด้วย

 

เรื่องนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นปัญหาของบรูโนมายาวนาน เขาเจอคำวิจารณ์เรื่องนี้มาโดยตลอด

 

ในขณะที่โอเดการ์ด แม้จะเป็นผู้นำในรูปแบบที่แตกต่างกัน บุคลิกใสๆ ไม่เหลี่ยม ไม่ตุกติกมากมาย แต่สถานการณ์ลำบากของอาร์เซนอล ทำให้แฟนบอล Gooners ก็เริ่มตั้งคำถามถึงกัปตันของพวกเขาเหมือนกันว่าตกลงแล้วเก่งพอจะช่วยอะไรทีมได้มากกว่านี้ไหม

 

นั่นเพราะอาร์เซนอลมีปัญหาขาดแคลนผู้เล่นในตัวรุก ถึงขนาดที่ต้องขยับเอา ไมเคิล เมริโน มิดฟิลด์ตัวห้องเครื่องขึ้นไปยืนเป็นศูนย์หน้าชั่วคราวแล้ว แต่แฟนบอลก็คาดหวังว่าคนที่มีทักษะการเล่นเป็นเลิศอย่างโอเดการ์ดจะพยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในเกม และนำพาชัยชนะมาสู่ทีมให้ได้

 

เหมือนในช่วงหนึ่งที่เขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ข้อเท้าต้องหายหน้าหายตาไปหลายเดือน ที่ทำให้ผลงานของอาร์เซนอลสะดุดอย่างมีนัยสำคัญ แต่สุดท้ายพอกลับมากลับกลายเป็นว่าโอเดการ์ดยิ่งเล่นก็ยิ่งดูดร็อปลงไปจากมาตรฐานที่เคยทำได้ในฤดูกาลก่อนๆ

 

คำถามนั้นเริ่มลามไปถึงอาร์เซนอลควรจะหาคนที่ดีกว่านี้เข้ามาเป็นผู้นำทั้งในเกมรุกและนำทีมไหม?

 

มาร์ติน โอเดการ์ด กับ บรูโน แฟร์นันด์ส

 

ตรงนี้เองที่ทำให้การเจอกันของบรูโนและโอเดการ์ดในเกมที่โอลด์แทรฟฟอร์ดน่าสนใจ โดยที่เราพอจะได้คำตอบบางอย่าง

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่ทำได้ดีกว่าในเกมนี้คือหมายเลข 8 ของแมนฯ ยูไนเต็ด

 

บรูโน แฟร์นันด์ส ไม่ได้แค่เป็นผู้ทำประตูสำคัญให้ปีศาจแดงขึ้นนำในช่วงท้ายครึ่งแรกจากลูกฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษ ซึ่งแม้ว่าระยะการตั้งกำแพงจะมีปัญหาอยู่บ้างแต่ลูกยิงของเขาที่ปั่นโค้งข้ามกำแพงก่อนฮุกเข้าเสียบตาข่ายนั้นเป็นการยิงที่สวยสดและงดงามอย่างยิ่ง

 

ที่สำคัญกว่าคือมันเป็นประตูที่สร้างความแตกต่างให้กับเกมได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่บรูโนทำให้ทีมและแฟนบอลได้เสมอโดยเฉพาะในเกมใหญ่นัดสำคัญที่เขาพร้อมจะยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ

 

ไม่เพียงเท่านั้นในช่วงครึ่งหลังยังมีโอกาสเกือบจะเป็นผู้ทำประตูชัยให้ทีมได้ด้วยหากดาวิด รายา จะไม่สปริงข้อเท้ากลับไปปัดบอลทิ้งได้ทันเวลาก่อนลูกจะข้ามเส้น และยังมีส่วนกับการสร้างเกมรุกทำอันตรายแนวรับของอาร์เซนอลได้บ่อยครั้ง

 

แม้ว่าในบางครั้งมันจะเป็นการเล่นที่เสี่ยงหรือมุทะลุไปนิดก็ตาม

 

ภาพนั้นแตกต่างจากกรณีของโอเดการ์ดที่ตลอดทั้งเกมแม้จะพยายามแล้วที่จะสร้างสรรค์เกมและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทีม 

 

แต่มันมีหลายครั้งในเกมที่สตาร์ชาวนอร์เวย์ ที่เพิ่งทำ 2 ประตูในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เหมือนติดหล่มในรูปแบบการเล่นของตัวเองที่มักจะห่วงการเล่นในแบบปลอดภัยไว้ก่อน เลือกจะม้วน วน หรือจ่ายกลับคืนให้เพื่อน มากกว่าที่จะพยายามแหวก ตะลุย ฝ่าดงนักเตะยูไนเต็ด หรือหาวิธีจ่ายเพื่อฉีกแนวรับให้เป็นริ้วๆในแบบที่เขาเคยทำได้

 

เรื่องนี้ทำให้คิดถึงหนึ่งในประเด็นของโอเดการ์ดที่รวมถึงอาร์เซนอลในฤดูกาลนี้คือพวกเขาพยายามเล่นแบบลดความเสี่ยง (Risk-Averse) มากเกินไปหรือเปล่า

 

เล่นเหมือนกลัวจะพลาด เล่นแบบปลอดภัยไว้ก่อนจนเกินไป จนกลายเป็นค่อยๆลืมอิสระในการเล่นที่เคยเป็นจุดเด่นของทีม

 

จริงอยู่ที่ต้องเข้าใจในปัญหาใหญ่ของอาร์เซนอลซึ่งขาดแกนหลักในแนวรุกไปจนเกือบหมด สถานการณ์แบบนี้โคตรทีมที่ไหนเจอกับลำบากเหมือนกันทั้งนั้นและอาจจะยับเยินกว่าด้วย

 

เพียงแต่มันก็วกกลับไปถึงคำถามใหญ่ของเรื่องอยู่ดี

 

ว่าในยามวิกฤตคับขันแบบนี้ ถ้าเลือกได้เราจะอยากได้ผู้นำทีมในแบบ บรูโน แฟร์นันด์ส หรือ มาร์ติน โอเดการ์ด มากกว่ากัน?

 

จอมโวยเลือดเดือดที่พร้อมเดินหน้าและท้าชน

 

กับจอมนิ่งที่สุขุมเยือกเย็นจนอาจจะเย็นเกินไป

 

จริงอยู่ที่เราไม่ควรจะตัดสินทุกอย่างจากเกมนัดเดียว เพราะมันก็อาจเป็นแค่เกมหนึ่งและหนึ่งวันที่บรูโนทำได้ดีกว่า แต่หากตั้งคำถามชั่งน้ำหนักหัวใจของตัวเองดีๆ สิ่งที่ได้เห็นจาก 90 นาทีกว่าๆที่โอลด์แทรฟฟอร์ดก็พอจะชวนให้คิดและตั้งคำถามสนุกๆกันได้

 

แต่ถ้าให้เลือกคำตอบที่ดีที่สุดจริงๆ

 

บางทีจับทั้งคู่มาผสมกันแล้วหารสองก็น่าจะเข้าท่าดี ว่าไหมครับ?

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising