วันนี้ (16 ตุลาคม) ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ โดยมีรายละเอียดระบุว่า
ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ สคบ. เกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ และรายการ โหนกระแส ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม มีการเผยแพร่คลิปเสียงบันทึกการสนทนา มีเนื้อหาทำให้เข้าใจได้ว่ามีผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์รายหนึ่งได้รับการช่วยเหลือจากพนักงานเจ้าหน้าที่ของ สคบ. ในเรื่องที่ถูกร้องเรียน
ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอันจะนำมาสู่การแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 และ มาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ประกอบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 313/2567 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 16 กันยายน 2567 ข้อ 6 จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ สคบ. เกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ ประกอบด้วย
- ชาติพงษ์ จีระพันธุ์ อัยการอาวุโส เป็นประธานกรรมการ
- พล.ต.ท. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการ
- นิรันด์ ยั่งยืน รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน เป็นกรรมการ
- กฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (จิราพร สินธุไพร) เป็นกรรมการ
- พ.ต.ต. จตุพล บงกชมาศ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นกรรมการ
- วิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นกรรมการ
- ปวริศ ผุดผ่อง คณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (จิราพร สินธุไพร) เป็นกรรมการ
- วิสุทธิ์ ฉัตรานุฉัตร ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและระเบียบกลาง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเลขานุการ
โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีหน้าที่และอำนาจ ดังนี้
- ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเชิญผู้บริหาร พนักงานเจ้าหน้าที่ใน สคบ. หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำหรือให้ข้อเท็จจริง และมีอำนาจเรียกเอกสารใดๆ จาก สคบ. หรือหน่วยงานใดๆ เพื่อประกอบการพิจารณา และให้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะต่อรองนายกรัฐมนตรี (ประเสริฐ จันทรรวงทอง) และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (จิราพร สินธุไพร) ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ออกคำสั่ง ในกรณีจำเป็น รองนายกรัฐมนตรี (ประเสริฐ จันทรรวงทอง) อาจมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาออกไปได้อีกตามที่เห็นสมควร
- คณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ รวมทั้งผู้ช่วยเลขานุการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเพียงเท่าที่จำเป็น เพื่อพิจารณาศึกษาหรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมายก็ได้
- ให้คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการที่แต่งตั้งตามคำสั่งนี้ได้รับเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยให้เบิกจ่ายจากสำนักนายกรัฐมนตรี
- ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
คณะกรรมการชุดนี้จะเริ่มทำงานทันที มีกำหนดการนัดหมายประชุมนัดแรกในวันพรุ่งนี้ (17 ตุลาคม) ที่ สคบ. ในเวลา 13.30 น.