×

สตง. พร้อมแถลงข่าวเหตุตึกถล่มหลังสงกรานต์ ขอรอผลสอบรัฐบาลก่อนตรวจสอบซ้ำ ยืนยันโปร่งใส ไร้เอี่ยวทหาร-บริษัทจีน

โดย THE STANDARD TEAM
10.04.2025
  • LOADING...
พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเหตุตึกสตง.ถล่ม

วันนี้ (10 เมษายน) พล.อ. ชนะทัพ อินทามระ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่ม โดยระบุว่าจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการหลังเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนแก่สาธารณชน

 

พล.อ. ชนะทัพ กล่าวว่า ผู้ว่าการ สตง. ได้ให้นโยบายให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการแสวงหาความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ได้สั่งการให้มีการรวบรวมรายงานและรายละเอียดต่างๆ แล้ว ส่วนประเด็นเรื่องแรงงานที่ได้รับผลกระทบ ผู้ว่าการ สตง. ได้ประสานงานกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) แล้ว ขณะที่เรื่องการว่าจ้างบริษัทผู้รับเหมายังต้องรอรายละเอียดจากรายงานอีกครั้ง

 

ประธานกรรมการ สตง. กล่าวถึงการตรวจสอบภายในว่า สตง. มีคณะกรรมการควบคุมการตรวจสอบที่ดำเนินการเป็นปกติอยู่แล้ว สำหรับการตรวจสอบเหตุการณ์อาคารถล่มนั้น เนื่องจากเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น จึงต้องรอรายงานเบื้องต้นก่อน และจะพิจารณาผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการชุดที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้แต่งตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดการตรวจสอบที่ซ้ำซ้อนกัน

 

เมื่อถามถึงความคืบหน้าหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์ พล.อ. ชนะทัพ ระบุว่า ต้องรอผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการของรัฐบาลก่อน จากนั้น สตง. จะพิจารณารายละเอียดเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับผู้ว่าการ สตง. แล้ว และมีความห่วงใยและเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ โดย สตง. ได้ติดต่อพูดคุยกับญาติของผู้เสียหายแล้ว และในวันนี้ (10 เมษายน) จะเดินทางไปร่วมงานทำบุญใหญ่ ณ จุดเกิดเหตุด้วย

 

พล.อ. ชนะทัพ ยืนยันว่า สตง. ไม่ได้นิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อประชาชนและประเทศชาติ แต่ยังไม่สามารถแถลงข่าวอย่างเป็นทางการได้ในทันที เนื่องจากต้องรอรายละเอียดที่ชัดเจน เพื่อป้องกันความผิดพลาดหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล ส่วนประเด็นการเชื่อมโยงกับนายทหารและบริษัทจีนนั้น ตนคิดว่าไม่เป็นความจริง และขอให้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป 

 

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ารู้จักกับนายทหารที่ถูกกล่าวอ้างและมีชื่ออยู่ใน บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องจากเคยทำงานอยู่ในกองทัพด้วยกัน แต่ไม่ได้มีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัว และไม่ได้ให้ความช่วยเหลือใดๆ โดยยึดหลักการทำงานเป็นหลัก พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นที่ถูกกล่าวถึง การดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ สตง. เป็นไปตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ โดยสมัครเข้ามาในรูปแบบของคณะกรรมการ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่หรือใช้เส้นสายใดๆ 

 

ส่วนกรณีที่มีการตั้งคำถามถึงการมีนายทหารเข้ามาอยู่ในกรรมการบอร์ดหลายคน พล.อ. ชนะทัพ ชี้แจงว่า ตนมีความสนใจและเคยทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ ประกอบกับกฎหมายเปิดโอกาสในช่วงนั้น จึงตัดสินใจสมัครเข้ามา

 

สำหรับประเด็นที่ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เคยถูกกระทรวงอุตสาหกรรมตรวจสอบเรื่องการใช้เหล็กไม่ได้มาตรฐานนั้น พล.อ. ชนะทัพ กล่าวว่า ในฐานะประธานกรรมการฯ ยังไม่เคยได้รับรายงานในเรื่องนี้ในส่วนของการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ต้องพิจารณาถึงขอบเขตความรับผิดชอบที่ชัดเจน จะโยนความรับผิดชอบทั้งหมดไม่ได้ ตนและกรรมการทุกคนมีความโปร่งใส ไม่มีประวัติด่างพร้อย และทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน

 

พล.อ. ชนะทัพ กล่าวถึงกระแสข่าวเรื่องการรับเงินใต้โต๊ะในหน่วยงาน สตง. ว่า ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามพระบรมราโชวาทของรัชกาลที่ 9 ที่ว่าเงินแผ่นดินคือเงินของประชาชน

 

เมื่อถามต่อถึงหน่วยงานที่ตรวจสอบ สตง. พล.อ. ชนะทัพ กล่าวว่า มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมบัญชีกลาง ซึ่งมีการตรวจสอบ สตง. เป็นประจำทุกปี และมีหน่วยงานที่ให้แนวทางแก่กรมบัญชีกลางในการตรวจสอบอีกด้วย นอกจากนี้ คณะกรรมการ สตง. ก็สามารถตรวจสอบการทำงานของผู้ว่าการ สตง. ได้ โดยมีการประเมินผลการปฏิบัติงานและสามารถถอดถอนได้

 

ส่วนประเด็นการแก้ไขกฎหมายในการกำกับดูแลการทำงานของผู้ว่าการ สตง. นั้น พล.อ. ชนะทัพ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องรอความเห็นของคณะกรรมการฯ และเสนอไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาแก้ไขกฎหมายต่อไป ซึ่งยังไม่สามารถประเมินได้ว่ากฎหมายฉบับเดิมและฉบับใหม่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร เนื่องจากกฎหมายฉบับใหม่เพิ่งมีการบังคับใช้มา 8 ปี ขณะที่ฉบับเดิมใช้มาถึง 20 ปี

 

พล.อ. ชนะทัพ กล่าวถึงการพูดคุยกับผู้ว่าการ สตง. เกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เรื่องการบริหารจัดการภายในสำนักงานเป็นอำนาจของผู้ว่าการฯ โดยที่กรรมการฯ ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ ซึ่งขณะนี้ได้ให้ผู้ว่าการฯ สรุปข้อมูลและรายงานให้กรรมการฯ ทราบ เมื่อผู้ว่าการฯ พร้อมก็จะเข้ามารายงานต่อไป

 

สำหรับความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับการรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ พล.อ. ชนะทัพ กล่าวว่า ต้องพิจารณาข้อกฎหมายอีกครั้ง และหารือกับคณะกรรมการฯ เพื่อให้ข้อคิดเห็นและสรุปเป็นมติ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการประชุม และต้องรอการสรุปข้อมูลจากรายงานที่จะส่งมา

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising