วันนี้ (12 กันยายน) กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) รายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 12 กันยายน 2565 ฉบับที่ 37/2565 ลงวันที่ 11 กันยายน 2565 แจ้งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมขังในช่วงวันที่ 11-13 กันยายน 2565 เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำสาย, กก, วัง, ยม, น่าน, แควน้อย, ป่าสัก, เจ้าพระยา, เลย, ชี, มูล, นครนายก, ปราจีนบุรี, บางปะกง, ระยอง, จันทบุรี และตราด และเฝ้าระวังแหล่งน้ำและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด 10 แห่ง ได้แก่
- อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล
- อ่างเก็บน้ำกิ่วคอหมา
- อ่างเก็บน้ำแม่มอก
- บึงบอระเพ็ด
- อ่างเก็บน้ำทับเสลา
- อ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์
- อ่างเก็บน้ำลำตะคอง
- อ่างเก็บน้ำมูลบน
- อ่างเก็บน้ำบางพระ
- อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล
รวมทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน ประกาศศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กอนช. ฉบับที่ 1/2565 ลงวันที่ 10 กันยายน 2565 แจ้งเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำมูล เนื่องจากสถานการณ์น้ำบริเวณลุ่มน้ำมูลตอนบน
พบว่ามีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนราษีไศลเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการคาดการณ์ในช่วงวันที่ 9-12 กันยายน 2565 จะมีฝนตกหนักบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ ประสานให้กรมชลประทานพิจารณาปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดเพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำ
คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนราษีไศล อยู่ในเกณฑ์ 1,100-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมวลน้ำจะไหลไปรวมกับแม่น้ำชีและลำน้ำสาขา ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ในเกณฑ์ 2,500-2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยในช่วงวันที่ 13-18 กันยายน ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นประมาณ 0.30-0.50 เมตร บริเวณอำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี โดยไม่ส่งผลกระทบกับพนังกั้นน้ำที่ได้เตรียมป้องกันไว้แล้ว
ผลการดำเนินงานตามมาตรการรองรับฤดูฝน
วานนี้ (11 กันยายน) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการ กอนช. ร่วมกับสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ติดตามการป้องกันและแก้ไขน้ำท่วมในเขต กทม. ณ ป้อมมหากาฬ คลองโอ่งอ่าง ในการเตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำ สถานีสูบน้ำ
รวมถึงการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ฝนและปริมาณน้ำที่ไหลมาจากทางตอนบน โดยได้มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในเขต กทม. เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและเตรียมพร่องน้ำไว้รองรับปริมาณฝนที่จะตกในพื้นที่
น้ำท่วมแล้ว 21 จังหวัด
ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่งในวันที่ 4-10 กันยายน 2565
ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ชุมชนเมืองและพื้นที่เกษตรกรรม รวม 21 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่, ลำพูน, สุโขทัย, ลพบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, อุทัยธานี, พระนครศรีอยุธยา, อ่างทอง, สุพรรณบุรี, อุบลราชธานี, ขอนแก่น, ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, ยโสธร, หนองบัวลำภู, บุรีรัมย์, สระแก้ว, ระยอง, จันทบุรี และฉะเชิงเทรา