×

NSL Foods ทุ่ม 800 ล้าน สร้างโรงงานใหม่รับกำลังผลิตโต 3 เท่า

07.07.2025
  • LOADING...

จุดเปลี่ยนสำคัญของ NSL Foods เริ่มจากการส่ง ‘แซนด์วิชอบร้อน’ เข้าไปวางขายในร้าน 7‑Eleven จนสร้างรายได้เติบโตมาถึงปัจจุบันนี้

 

แต่ สมชาย อัศวปิยานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อไปว่า ในครึ่งปีหลังภาวะเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงชะลอตัว เงินเฟ้อทำให้ค่าครองชีพของผู้บริโภคสูงขึ้น แน่นอนว่าหลาย ๆ ธุรกิจอาจได้รับผลกระทบ

 

แต่สวนทางกับธุรกิจอาหารที่ยังเป็นปัจจัยสี่ในชีวิตประจำวันของผู้คน อาจยังไม่กระทบมากนัก และที่สำคัญจุดแข็งของ NSL Foods เป็นสินค้าที่ทานง่ายและราคาเริ่มตั้งแต่ 29-35 บาท อาจไม่แพงมากในสายตาผู้บริโภค

 

จากแนวโน้มตลาดที่ยังพอมีโอกาสเติบโต จากนี้บริษัทจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ตามเทรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยจะสามารถสร้างโอกาสในการขายเพิ่มขึ้นด้วย

 

นอกจากนี้ยังได้ลงทุน 800 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งใหม่ที่ชลบุรี ปัจจุบันเริ่มตอกเสาเข็มไปแล้ว คาดว่าเฟสแรกจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2569 และจะเพิ่มกำลังผลิตแซนด์วิชอบร้อนเพิ่มขึ้น 3 เท่า

 

โรงงานแห่งใหม่จะถูกใช้เป็นฐานผลิตสินค้าส่งออกด้วย ไม่ว่าจะในกลุ่มขนมหวาน, อาหารแช่แข็ง (Frozen) และอาหารพร้อมทานข้าวแท่ง โดยรวมแล้วโรงงานแห่งนี้จะมีกำลังผลิตรวมทั้งหมด 1.4 ล้านชิ้นต่อวัน สามารถรองรับการเติบโตไปได้อีก 5-6 ปี

 

สำหรับทิศทางการดำเนินงานต่อจากนี้ NSL Foods เน้น 3 กลยุทธ์หลัก เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน 1. Engagement ร่วมมือพันธมิตรเสริมศักยภาพสินค้า ที่ผ่านมา NSL ให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับคู่ค้าและลูกค้า ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยเฉพาะพันธมิตรหลักอย่าง 7-Eleven ที่ร่วมมือกันพัฒนาสินค้านวัตกรรม ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

 

2. Expansion รุกขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ บริษัทเดินหน้าขยายโอกาสทางธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งบริษัทย่อยหรือเข้าซื้อกิจการเพื่อเสริมแกร่ง เช่น NSL INTERTRADE (2023) Co., Ltd. ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศที่เกิดจากการเข้าซื้อโรงงาน PNF ผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรแปรรูปกว่า 20 ปี ปัจจุบันส่งออกน้ำมะพร้าว กะทิ และน้ำผลไม้ไปยังกว่า 15 ประเทศทั่วโลก มีลูกค้ารายใหญ่กว่า 100 ราย

 

ตามด้วยธุรกิจ Food Services (HoReCa) ผ่านโรงงาน NSL สาขา 5 ที่ผลิตและแปรรูปสินค้าเนื้อสัตว์ให้กับโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง ซึ่งเติบโตตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงธุรกิจเนยแข็ง ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในเครือและจำหน่ายทั่วไป และ Bake A Wish ที่เข้าถือหุ้น 60% ปัจจุบันมี 60 สาขา ในปีนี้ยังไม่มีแผนขยายสาขา แต่จะเน้นปรับปรุงสาขาเดิมให้ทันสมัยขึ้น

 

3. Exponential Growth เร่งเติบโตด้วยนวัตกรรม มุ่งพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์ตลาดเฉพาะกลุ่ม พร้อมสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา (R&D) ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าให้แข่งขันได้ในระดับสากล

 

สุดท้ายแล้วบริษัทได้วางเป้าหมายภายในสิ้นปี 2568 จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการส่งออกจาก 0.5% เป็น 5% หรือประมาณ 300–350 ล้านบาท

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising