โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสที่เพิ่งทำสถิติครองมือหนึ่งของโลกจนจบปีเป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกาศแผนหลังยุติเส้นทางนักเทนนิสอาชีพ โดยวางแผนผันตัวเป็นโค้ช เพื่อถ่ายทอดความรู้สู่นักเทนนิสรุ่นต่อไป
นักหวดลูกสักหลาดชาวเซอร์เบียวัย 34 ปี นับว่าเป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุค Open Era ด้วยการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมไปแล้ว 20 สมัย มากที่สุดของประเภทชายเดี่ยว เทียบเท่ากับ ราฟาเอล นาดาล และ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อีกสองนักเทนนิสระดับตำนานของยุคปัจจุบัน
โดยล่าสุดยอโควิชได้ออกมาเปิดเผยแผนการหลังแขวนแร็กเก็ตว่า เขาต้องการที่จะเป็นโค้ช เพราะเป็นสิ่งที่เหมาะสมในการถ่ายทอดความรู้ไปสู่นักเทนนิสรุ่นต่อไป
“ผมจะพยายามถ่ายทอดความรู้ทุกอย่างของผมไปสู่นักเทนนิสรุ่นต่อไป แต่ความรู้จะกลายเป็นเหมือนคำสาปหากคุณไม่ใช้มัน
“สิ่งที่ผมควรจะทำหลังเกษียณ ผมควรเอาความรู้ทั้งหมดที่ผมได้มาลงหลุมฝังศพไปกับผม แทนที่จะมอบให้กับนักเทนนิสรุ่นต่อไปได้เรียนรู้อย่างนั้นหรือ?
“สำหรับผมแล้ว มันเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่ก้าวต่อไปของผมคือการถ่ายทอดความรู้ไปสู่ผู้คน ผมเห็นตัวเองในบทบาทต่างๆ ในอนาคต และผมดีใจที่ผมจะสามารถพัฒนาตัวเองต่อในฐานะโค้ชได้”
นอกจากนี้ยอโควิชยังได้กล่าวถึง ดานิล เมดเวเดฟ นักเทนนิสมือวางอันดับ 2 ของโลกจากรัสเซียวัย 25 ปี ที่เพิ่งจะพ่ายให้กับตัวเขาในรอบชิงชนะเลิศ รายการ ปารีสมาสเตอร์ส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า
“เขาคือหนึ่งในนักเทนนิสที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้ และถ้าเขารักษาสภาพร่างกายได้ เขาจะคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้อีกหลายรายการ
“ผมคงไม่ต้องโค้ชอะไรเขา เขาคือนักเทนนิสคู่แข่งมือหนึ่งของผมในตอนนี้ และเขามีโอกาสเข้าใกล้ตำแหน่งมือหนึ่งของโลกมาก เขาคือผู้นำของนักเทนนิสรุ่นใหม่ และเขาแทบจะไม่มีจุดออนเลย”
สำหรับ โนวัค ยอโควิช มีโอกาสคว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการต่อไปคือ ออสเตรเลียนโอเพ่นในช่วงต้นปี 2022 และถ้าทำได้ เขาจะกลายเป็นนักเทนนิสชายเดี่ยวคนแรกที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 21
แต่เนื่องจากที่ผ่านมา ยอโควิชยืนยันว่าจะไม่เปิดเผยสถานะการฉีดวัคซีนโควิด และรัฐวิกตอเรียได้ออกกฎข้อบังคับว่านักกีฬาอาชีพจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจนในด้านของนักกีฬาที่เดินทางมาจากต่างประเทศในตอนนี้ ส่งผลให้ยอโควิชอาจหมดสิทธิ์ลงแข่งขันจากกฎข้อบังคับการฉีดวัคซีนของพื้นที่จัดการแข่งขันในครั้งนี้
อ้างอิง: