สำนักข่าวกลางเกาหลี (Korean Central News Agency: KCNA) สื่อกระบอกเสียงของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า รัฐบาลเปียงยางประสบความสำเร็จในการปล่อยจรวดส่งดาวเทียมสอดแนมทางทหาร มัลลีกยอง-1 (Malligyong-1) ขึ้นสู่วงโคจรโลกได้อย่างแม่นยำ พร้อมเตรียมส่งดาวเทียมอีกหลายดวงขึ้นสู่อวกาศภายในช่วงเวลาไม่นานหลังจากนี้ เพื่อคงความสามารถในการสอดแนมต่อต้านเกาหลีใต้
KCNA รายงานว่า จรวดที่ใช้นำส่งดาวเทียมสอดแนมดังกล่าวคือจรวดชอลลีมา-1 (Chollima-1) ซึ่งถูกปล่อยจากฐานปล่อยในเมืองตงชางรี บริเวณชายฝั่งตะวันตกของเกาหลีเหนือ เมื่อเวลา 22.42 น. วานนี้ (21 พฤศจิกายน) ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือร่วมสังเกตการณ์ด้วย
“จรวดขนส่งชอลลีมา-1 บินอย่างปกติไปตามเส้นทางบินที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และนำดาวเทียมลาดตระเวนมัลลีกยอง-1 ขึ้นสู่วงโคจรโลกอย่างแม่นยำ ในเวลา 22.54.13 น. หรือ 705 วินาทีหลังการปล่อยตัว” KCNA ระบุในรายงานภาษาอังกฤษ
ความสำเร็จในการปล่อยจรวดส่งดาวเทียมสอดแนมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือล้มเหลวมาแล้ว 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ในช่วงเดือนพฤษภาคมและสิงหาคม
ด้านเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาไม่ยืนยันว่าเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการส่งดาวเทียมสอดแนมสู่อวกาศได้ตามที่อ้างหรือไม่ แต่ประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ที่ห้ามการทดสอบใดๆ โดยใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธ
โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศมาตรการตอบโต้ด้วยการฟื้นการลาดตระเวนและสอดแนมพื้นที่รอบชายแดนระหว่าง 2 เกาหลีอีกครั้ง ในขณะที่ยืนยันว่าจะดำเนินการเพื่อระงับส่วนหนึ่งของข้อตกลงทางทหารระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ในปี 2018 ที่ออกแบบมาเพื่อลดความตึงเครียดบริเวณชายแดนและป้องกันการปะทะโดยไม่ได้ตั้งใจ
ด้าน ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ประณามการปล่อยจรวดส่งดาวเทียมสอดแนมดังกล่าวอย่างรุนแรง โดยจรวดได้บินผ่านจังหวัดโอกินาวาไปทางมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้ทางการญี่ปุ่นต้องประกาศเตือนประชาชนให้หลบภัย ซึ่งผู้นำญี่ปุ่นเผยว่าได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อเกาหลีเหนือแล้ว
อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือปกป้องความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมสอดแนมดังกล่าวว่าเป็นสิทธิที่ถูกต้องตามกฎหมายในการเสริมสร้าง ‘ความสามารถในการป้องกันตนเอง’
“การปล่อยดาวเทียมจะมีส่วนสำคัญในการช่วยยกระดับการเตรียมพร้อมทำสงครามของกองทัพสาธารณรัฐ” KCNA ระบุ
ภาพ: KCNA via Reuters
อ้างอิง: