จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวสหรัฐฯ แถลงต่อผู้สื่อข่าววานนี้ (22 ธันวาคม) ยืนยันว่าเกาหลีเหนือได้จัดส่งขีปนาวุธและจรวดให้แก่กลุ่มวากเนอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มทหารรับจ้างชาวรัสเซีย เพื่อใช้ทำสงครามในยูเครน
โดยทำเนียบขาวชี้ว่า การจัดส่งอาวุธดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ พร้อมประกาศขยายมาตรการคว่ำบาตรกลุ่มวากเนอร์เพิ่มเติม
“วากเนอร์กำลังมองหาผู้จัดหาอาวุธจากทั่วโลกเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เราสามารถยืนยันได้ว่าเกาหลีเหนือได้ส่งมอบอาวุธในเบื้องต้นให้กับวากเนอร์ ซึ่งเป็นผู้จ่ายค่ายุทโธปกรณ์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว”
เคอร์บีกล่าวว่า กลุ่มวากเนอร์มีการใช้จ่ายเงินมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน สำหรับปฏิบัติการรบในยูเครน พร้อมชี้ว่าแสนยานุภาพทางทหารของทหารรับจ้างกลุ่มนี้เทียบเคียงได้กับกองทัพรัสเซีย
สำหรับกลุ่มวากเนอร์ที่ผ่านมามีบทบาทในการสู้รบทั้งในซีเรียและหลายประเทศแอฟริกา และถูกกล่าวหาหลายครั้งว่าก่ออาชญากรรมสงครามและละเมิดสิทธิมนุษยชน
โดยข้อมูลจากรัฐบาลอังกฤษพบว่า มีกลุ่มทหารรับจ้างที่เข้าร่วมการสู้รบในยูเครน เพิ่มขึ้นจาก 1,000 คน ในช่วงต้นของสงคราม เป็นเกือบ 20,000 คน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเปียงยางและกลุ่มวากเนอร์ต่างปฏิเสธรายงานดังกล่าว โดย เยฟจินี ปริโกซิน (Yevgeny Prigozhin) ผู้นำบริษัท Wagner Group ซึ่งเป็นองค์กรของกลุ่มวากเนอร์ และเป็นพันธมิตรคนสำคัญของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยชี้ว่าเป็นเพียง “การซุบซิบและการคาดเดา” ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ ตอบโต้รายงานดังกล่าวว่า “ไม่มีมูลความจริง
“จุดยืนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และการซื้อขายอาวุธระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซียไม่เคยเกิดขึ้น” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าว
ขณะที่ เจมส์ เคลเวอร์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ เห็นด้วยกับรายงานของวอชิงตัน และชี้ว่าการที่ปูตินหันไปขอความช่วยเหลือจากเกาหลีเหนือ “เป็นสัญญาณความสิ้นหวังและความโดดเดี่ยวของรัสเซีย”
ภาพ: OLGA MALTSEVA / AFP
อ้างอิง: