เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้บรรลุความตกลงร่วมมือกันหลายฉบับในระหว่างการประชุมซัมมิตครั้งที่ 3 ในปีนี้ ซึ่งรวมถึงการประกาศยุติยุคแห่งสงคราม พร้อมเดินหน้ากระบวนการทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์ และแสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปี 2032 เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีสู่อนาคตใหม่ที่รุ่งโรจน์
ประธานาธิบดีมุนแจอินของเกาหลีใต้ซึ่งอยู่ในระหว่างเยือนกรุงเปียงยาง กล่าวในพิธีลงนามหลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดกับคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือว่า สองเกาหลีต่างเห็นพ้องในแนวทางสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์ให้สำเร็จ
“ยุคที่ไร้สงครามได้เริ่มขึ้นแล้ว วันนี้เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ตัดสินใจที่จะขจัดภัยคุกคามทั้งหมดออกจากคาบสมุทรเกาหลี” มุนกล่าว
“เกาหลีเหนือจะปิดสถานที่ทดสอบเครื่องยนต์ที่ใช้ขับเคลื่อนขีปนาวุธในทงชางรี รวมถึงฐานปล่อยขีปนาวุธเป็นการถาวร โดยให้ผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศที่เกี่ยวข้องมาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย”
นอกจากนี้สองฝ่ายยังตกลงร่วมมือกันในโครงการสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างสองประเทศ และอนุญาตให้ครอบครัวที่พลัดพรากในสมัยสงครามได้อยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง ตลอดจนร่วมมือในโครงการสาธารณสุข
อีกหนึ่งข้อตกลงที่สร้างความฮือฮาและแสดงถึงการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีก็คือ การประกาศเสนอเป็นเจ้าภาพร่วมในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปี 2032
ขณะที่คิมจองอึนยกย่องผลการประชุมซัมมิตครั้งนี้ว่าเป็นก้าวกระโดดสู่สันติภาพทางทหาร พร้อมรับปากประธานาธิบดีมุนแจอินว่าจะไปเยือนกรุงโซลในอนาคตอันใกล้นี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: