วันนี้ (8 ตุลาคม) ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ลงพื้นที่ติดตามเร่งรัดการสอบปากคำญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุกราดยิงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ ซึ่งพยานมีทั้งหมด 180 ปาก จะเร่งรัดให้สอบเสร็จภายใน 2 วัน และกำชับว่าต้องสอบครั้งเดียวจบ ไม่สอบหลายครั้ง เพราะจะทำให้ญาติต้องคิดถึงเหตุที่กระทบจิตใจ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ เป็นสิ่งที่ต้องทำเพราะเป็นระเบียบ
สำหรับลำดับเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากผู้ก่อเหตุเดินทางกลับจากศาลจังหวัดหนองบัวลำภู มาที่บ้านไม่พบภรรยาและลูก เริ่มก่อเหตุขับรถชนคนตามถนน เดินทางไปศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ กลับมาบ้านก่อเหตุกับภรรยาและลูก
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า ตำรวจต้องทำงานร่วมกับนักจิตวิทยาเพื่อเข้าไปดูแลสภาพจิตใจญาติ ส่วนแนวทางการสอบสวนเรื่องของมูลเหตุจูงใจเกิดจากความเครียดเป็นหลัก เพราะการตรวจชันสูตรไม่พบยาเสพติดในร่างกาย
ประเด็นตำรวจคาดว่าเกิดจากความเครียดสะสมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เรื่องครอบครัว เงิน และคดีต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ โดยขณะนี้ตำรวจให้น้ำหนักไปที่ความเครียดส่วนตัว
ส่วนในเรื่องคดียาเสพติดที่ถูกจับกุมจนนำไปถึงการออกราชการ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ยืนยันว่าไม่ได้ถูกกลั่นแกล้ง ของกลางที่พบจากการจับกุมครั้งนั้นคือยาเสพติด 1 เม็ด โดยผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพขณะนั้นว่าเก็บไว้นานแล้ว
ส่วนประเด็นที่มีส่วนพัวพันกับเครือข่ายในพื้นที่ มองว่าเป็นการตัดตอนก่อนหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่มีเรื่องแบบนี้แน่นอน เป็นเรื่องส่วนตัวที่สะสมมาหลายเรื่องจึงลงมือก่อเหตุสลดขึ้น ทำให้การแสดงออกเป็นพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง
กรณีที่ผู้ก่อเหตุเผารถ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตำรวจไม่ทราบสาเหตุ รู้เพียงว่ารถเป็นหนี้ผ่อนชำระอยู่ 3-4 แสนบาท และหลังถูกไล่ออกจากราชการไปทำงานตัดอ้อย ทำไร่ ส่วนนี้อาจจะเครียดเพราะไม่มีเงิน
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ยังกล่าวด้วยว่า เตรียมให้แพทย์ตำรวจอธิบายเรื่องความเครียด เรื่องบุคลิกภาพ และเหตุการณ์ทั้งหมดจะมีการถอดบทเรียน ส่วนเรื่องยาเสพติดในชุมชนจะมีการตรวจสอบในองค์กรตำรวจด้วย หากพบโรงพักไหนยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดก็จะมีบทลงโทษต่างๆ ซึ่งรวมถึงผู้บังคับบัญชาในแต่ละหน่วยของสายงานตำรวจก็จะถูกภาคทัณฑ์ด้วย