โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แสดงความเชื่อมั่นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (17 พฤษภาคม) ว่าตนเองจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับผู้นำพรรครีพับลิกันเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ ที่อาจเกิดขึ้น หลังเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้ออกโรงเตือนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ภายในกรอบเวลาที่กำหนด สหรัฐฯ มีสิทธิ์ผิดนัดชำระหนี้ได้ในวันที่ 1 มิถุนายน
โดยเยลเลนระบุว่า สหรัฐฯ อาจเริ่มผิดนัดชำระหนี้ได้เร็วที่สุดในวันที่ 1 มิถุนายน ขณะที่สำนักงบประมาณรัฐสภาสหรัฐฯ คาดการณ์ไว้ในวันที่ 15 มิถุนายน
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวสั้นๆ ที่ทำเนียบขาวก่อนเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่ม G7 ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่นว่า ตนเองมั่นใจว่าสภาคองเกรสจะได้ข้อตกลงตามงบประมาณที่ต้องการ และสหรัฐฯ จะไม่มีวันผิดชำระหนี้โดยเด็ดขาด
ไบเดนย้ำชัดว่า การไม่ขยายเพดานหนี้ ‘ไม่ใช่ทางเลือก’ เพราะการกระทำดังกล่าวจะเป็นความหายนะสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และชาวอเมริกัน ซึ่งบรรดาแกนนำในสภาคองเกรสต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่าสหรัฐฯ ต้องไม่ผิดนัดชำระหนี้
ที่ผ่านมาประธานาธิบดีไบเดน และเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้จัดการพูดคุยและพบปะหน้ากัน 2 ครั้ง เพื่อพยายามบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มวงเงินกู้ยืมของสหรัฐฯ และอนุญาตให้สหรัฐฯ ชำระภาระผูกพันที่มีอยู่
ไบเดนระบุว่า การพูดคุยร่วมกับแกนนำทั้งสี่ของสภาคองเกรสเมื่อวันอังคาร (16 พฤษภาคม) เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ทุกฝ่ายให้ความเคารพซึ่งกันและกัน และเจรจาด้วยความจริงใจ ทำให้ไบเดนมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณ และสหรัฐฯ จะไม่ผิดนัดชำระหนี้
ท่าทีดังกล่าวของไบเดนสอดคล้องกับท่าทีของแมคคาร์ธีที่ระบุว่า สหรัฐฯ จะไม่ผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่คณะทำงานของทำเนียบขาวและสภาคองเกรสกำลังมีความคืบหน้าในการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ โดยการเจรจาขณะนี้มีโครงสร้างสำหรับแนวทางที่จะนำไปสู่การได้ข้อสรุป แม้ว่ากรอบเวลาค่อนข้างตึงตัว แต่สภาคองเกรสจะยังคงทำการเจรจาเพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลง
ก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน แมคคาร์ธีเพิ่งจะให้สัมภาษณ์ยืนยันความเป็นไปได้ที่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ภายในปลายสัปดาห์นี้
คำยืนยันของประธานาธิบดีไบเดนมีขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะเดินทางไปญี่ปุ่น โดยไบเดนยังระบุอีกว่ามีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ขณะที่ไบเดนเดินทางกลับจากญี่ปุ่นในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งทางทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ในระหว่างร่วมการประชุม G7 ที่ญี่ปุ่น ประธานาธิบดีไบเดนจะยังคงติดต่อทางโทรศัพท์กับคณะทำงานของทำเนียบขาว เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการเจรจาดังกล่าว
การออกมาให้คำมั่นว่าสหรัฐฯ จะสามารถบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้จากระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้ทันตามกรอบเวลา ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน และทำให้ตลาดวอลล์สตรีทกลับมาคึกคักสดใสอีกครั้ง โดยดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones ปรับตัวเพิ่มขึ้น 408.63 จุด หรือ 1.24% ปิดที่ 33,420.77 จุด, ดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 48.87 จุด หรือ 1.19% ปิดที่ 4,158.77 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้น 157.51 จุด หรือ 1.28% ปิดที่ 12,500.57 จุด
นอกจากนี้ ตลาดวอลล์สตรีทยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากบรรดาหุ้นธนาคารท้องถิ่นที่ขยับขึ้น นำโดย Western Alliance Bancorp ที่พุ่งขึ้น 10.19% หลังจากที่ทางธนาคารเปิดเผยว่าเงินฝากของทางธนาคารเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 12 พฤษภาคม
ขณะเดียวกัน ความกังวลของการผิดนัดชำระหนี้ที่ผ่อนคลายลงยังทำให้นักลงทุนลดความต้องการในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำปรับลดในวันพุธ (17 พฤษภาคม) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยราคาทองคำ COMEX งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 8.10 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 1,984.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โจ ไบเดน เพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซีย จ่อขึ้นภาษี 200% สำหรับอะลูมิเนียมทุกประเภทที่ผลิตในรัสเซีย
- โจ ไบเดน ยกตัวเลขจ้างงานเดือน ม.ค. ที่แตะ 5.17 แสนตำแหน่ง เป็น ‘ผลงานชิ้นเอก’ ของรัฐบาล
- รัฐบาล โจ ไบเดน ทุ่มเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มผลผลิตแร่ธาตุสำหรับผลิตแบตเตอรี่ EV
อ้างอิง: