×

รังสิมันต์กล่าวหานายกรัฐมนตรี เข้าข่ายอั้งยี่ซ่องโจร ช่วยเหลือบิดาแหกคุกอย่างเป็นขบวนการ สงสัยป่วยวิกฤต แต่ใช้โทรศัพท์ไถทวิตเตอร์ได้ แม้มีสถานะนักโทษ

โดย THE STANDARD TEAM
25.03.2025
  • LOADING...
รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายซักฟอกนายกฯ กรณีช่วยทักษิณไม่ต้องติดคุก

วันนี้ (25 มีนาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่ 2 รังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายในหัวข้อชั้น 14 ซึ่งมีพยานหลักฐานสำคัญยืนยันได้ว่ากรณีดังกล่าวลวงโลกอย่างไร โดยมีพยานคือ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ใกล้ชิดกับ ‘นายใหญ่’ มากที่สุด เดิมทีนายกรัฐมนตรีเป็นเพียงประจักษ์พยาน แต่ต่อมานายกรัฐมนตรีกลายเป็นตัวการสำคัญในการกระทำความผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง ที่มีโทษฐานที่รุนแรง ท้ายที่สุดคือขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี 

 

รังสิมันต์เปิดคลิปวิดีโอคำสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2566 ที่ระบุว่า “คุณพ่อตรวจสุขภาพปีละ 2 ครั้ง” ก่อนกล่าวว่า คำพูดของนายกรัฐมนตรีเป็นสิ่งยืนยันว่าก่อนที่นายใหญ่จะกลับมา นายใหญ่คนนี้มีสุขภาพดีอย่างแน่นอน หากมีปัญหาสุขภาพ ตนมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีคงจะใช้โอกาสนี้สื่อสารกับสังคม แต่อะไรทำให้นายใหญ่ต้องไปขึ้นเขียงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจถึง 180 วัน ต้องมีปัจจัยอะไรบางอย่างที่ จู่ๆ ทำให้คนสุขภาพดี ได้รับการดูแลรักษาที่ดูไบเป็นอย่างดีราวกับสุลต่านถึงได้ล้มป่วยกะทันหันขนาดนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าอาการป่วยคงจะอยู่ในช่วงเวลาที่นายใหญ่เดินทาง

 

รังสิมันต์ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อนายใหญ่กลับมาเป็นช่วงที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ เข้ามายึดอำนาจจากน้องสาวนายทักษิณ เคยว่ากล่าวเสียหายหลายอย่างบางครั้งได้ยินชื่อทักษิณ ก็โกรธควันออกหู เดินทิ้งโพเดียม นอกจากนั้น ที่ทุกวันนี้เราเรียก พ.ต.ท. เป็นคำนำหน้าทักษิณไม่ได้อีกแล้ว ก็เป็นเพราะ พล.อ. ประยุทธ์ เราต้องไม่ลืมว่าวันนั้น และผู้ที่รักษาการกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้นมีชื่อว่า วิษณุ เครืองาม ซึ่งเป็นเนติบริกรให้กับ พล.อ. ประยุทธ์มาโดยตลอด

 

“ไม่คิดว่าแปลกหรือ ขนาดวันที่น้องสาวของตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรียังกลับมาไม่ได้ มันเป็นเพราะดีลที่แพทองธารไปทำมาหรือไม่  จึงทำให้นายใหญ่มั่นใจว่าครั้งนี้กลับมาประเทศไทยได้” รังสิมันต์ระบุ

 

รวมหัวเล่นละคร ไม่ต่างจากนักโทษแหกคุก

 

รังสิมันต์กล่าวต่อไปว่า แผนที่เตรียมไว้ คือแผนที่อดีตนายกรัฐมนตรีจะต้องไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว แต่ตนเองแอบไปทราบมาว่า แพทองธารรู้ว่านายใหญ่จะเหลือโทษจำคุกอีก 1 ปี ในคืนหลังกลับถึงประเทศไทยแล้ว ถ้ารู้ล่วงหน้านานกว่านี้ การเตรียมการทั้งหลายมันจะดีกว่านี้ การเล่นละครถึงจะสมจริงกว่านี้ ไม่ต้องมาขายผ้าเอาหน้ารอดกันแบบนี้ 

 

หลังจากนั้นกรมราชทัณฑ์ได้แถลงใหญ่โต ว่าทักษิณตรวจพบ 4 โรค คือหัวใจขาดเลือด, ปอดผิดปกติ, ความดันสูง และกระดูกสันหลังเสื่อม จัดอยู่ในกลุ่มเปราะบาง จากการแถลงตรงนี้ส่อพิรุธ เพราะจากที่แพทองธารให้สัมภาษณ์ ทำไมมาถึงได้สวนทางกันขนาดนี้ ทั้งที่ห่างกันแค่เพียง 2 วัน

 

รังสิมันต์ชี้ว่า กรณีนี้ไม่ต่างอะไรกับนักโทษแหกคุก และดีลนี้ยังรวมไปถึงการที่คณะรัฐประหารและแพทองธาร ได้ขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะแต่รายคน ซึ่งตามระเบียบแล้วคนที่สามารถขออภัยโทษได้คือตัวนักโทษเองและคนในครอบครัว แต่แพทองธารได้กระทำการอกตัญญู โดยการปล่อยให้บิดาของตัวเองช่วยเหลือตัวเองในการร้องขออภัยโทษ

 

ในหมายข่าวของกรมราชทัณฑ์ วันที่ 11 มกราคม 2567 แจ้งว่าผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาให้พ้นจากสภาวะ “อันตรายแก่ชีวิต” แต่ก็ไม่ได้มีรายละเอียดที่เป็นรูปธรรม แต่ในช่วงเวลานั้น นายกรัฐมนตรีที่เป็นลูกสาวกลับเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศด้วยความสบายใจถึง 2 ครั้ง ต่างจากเมื่อครั้งก่อนที่นายใหญ่จะเดินทางกลับประเทศไทย ที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยี่ยมแทบทุกเดือน

 

“ท่านนายกรัฐมนตรีจะทราบไหมว่าการที่ท่านไม่ได้ไปเยี่ยมบิดา ทำให้พ่อของท่านเหงา เหงาจนถึงขนาดที่นำไปสู่การละเมิดกฎหมาย นั่นคือให้บุคคลภายนอกรายชื่อเข้าเยี่ยมบิดาของท่าน”

 

บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมได้

 

รังสิมันต์ระบุว่า ทั้ง พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ขึ้นไปพบนายใหญ่ถึงชั้น 14 มีการบรรยายสภาพภายในห้องรักษาตัว รวมถึงเปิดเผยว่ามีการพูดคุยกันเป็นเวลานาน

 

ป่วยใกล้ถึงแก่ชีวิต แต่ใช้มือถือเล่นทวิตเตอร์ได้

 

รังสิมันต์ยังได้เปิดเผยเอกสารหลักฐานชิ้นหนึ่ง คือหนังสือบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา โดยกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ประชาชนคนหนึ่งในจังหวัดกระบี่ ระบุในเอกสารว่า

 

“ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ ทักษิณ ชินวัตร พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุ ได้พบเห็นผู้ใช้ บัญชีทวิตเตอร์ SecretNewsAgency (@SNews Agency) โพสต์ภาพ ทักษิณ และหลายภาพ ซึ่งเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ ต่อสาธารณชน ทำให้ได้รับความเสียหาย โดยผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์”

 

รังสิมันต์ชี้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 12 มกราคม 2567 หรือเพียง 1 วัน ให้หลังจากที่กรมราชทัณฑ์ได้แจ้งข่าวว่า นายใหญ่ต้องรับการรักษาตัวต่อเพราะอยู่ในสภาวะอันตรายแก่ชีวิต แต่ในวันต่อมานายใหญ่ไถมือถือเจอคนด่าในทวิตเตอร์ และอาจไม่ได้ใช้เล่นเท่านั้น แต่อาจใช้ในการสั่งการทางการเมืองด้วย

 

“วิกฤตอย่างไร ไถมือถือเล่นได้ด้วย พ่อของท่านไถมือถืออยู่ในโรงพยาบาลตำรวจได้อย่างไร ใครเอาไปให้ หรือเปล่า พ่อของท่านนายกรัฐมนตรีระวังอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจต้องถือว่าเป็นนักโทษ ต้องอยู่ในการควบคุมของเรือนจำ การมีอิสระในการเล่นมือถือถือว่าผิดกฎหมายอย่างชัดเจน” รังสิมันต์กล่าว

 

นอกจากนี้ รังสิมันต์ระบุว่า เงื่อนไขที่นายใหญ่ได้รับการพักโทษ ต้องผ่านแบบทดสอบลักษณะของนักโทษชราภาพที่ช่วยเหลือตนเองได้น้อย ซึ่งเคยมีรัฐมนตรีท่านหนึ่งตอบในการถามกระทู้สดว่า นายใหญ่ทำได้ 9 คะแนน คือการช่วยเหลือตัวเองได้บางส่วน มีโรคเรื้อรังหลายโรค มีภาวะแทรกซ้อนและมีกลุ่มอาการที่มีผลต่อการเคลื่อนที่และการเข้าสังคม ซึ่งหากการประเมินนี้เป็นของปลอมการพักโทษก็จะไม่ชอบด้วยกฎหมายทันที

 

รังสิมันต์ตั้งคำถามว่านายใหญ่ทำแบบประเมินอย่างไรถึงได้ 9 คะแนน เพราะแต่ละข้อ ต้องหมายถึงว่านายใหญ่ไม่สามารถกินข้าวด้วยตนเอง ล้างหน้าแปรงฟันเอง ใช้ห้องน้ำเอง หรือกลั้นอุจจาระและปัสสาวะเช่นเดียวกัน และข้อเท็จจริงตรงกับแบบประเมินหรือไม่

 

ทั้งนี้ การกระทำของนายกรัฐมนตรี และคณะ ไม่ต่างจากพานักโทษแหกคุก และสิ่งที่นายกรัฐมนตรีและพวกดำเนินการ คือการสมรู้ร่วมคิดของหน่วยงานโรงพยาบาลตำรวจ และราชทัณฑ์ และสิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำ ครบองค์ประกอบกฎหมายอาญามาตรา 209 และมาตรา 210 ฐานอั้งยี่ ซ่องโจร ซึ่งบทบัญญัติกำหนดโทษร้ายแรง

 

“หากมีการทลายซ่องโจรจันทร์ส่องหล้า จะสามารถเอาผิดคนจำนวนมากได้” รังสิมันต์กล่าว

 

อย่างไรก็ดี เหตุที่นายทักษิณไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว เป็นเพราะการกระทำที่ผิดกฎหมาย ที่นายกรัฐมนตรี และลูกสมุน ทำดีลแลกประเทศ จนทำลายหลักนิติรัฐ และกระบวนการยุติธรรม ถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายของรังสิมันต์ มี สส.พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกขึ้นประท้วงหลายครั้ง โดยเฉพาะ ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ประท้วงรังสิมันต์รวมกันแล้วเป็นสิบกว่าครั้ง

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising