×

ธีรัจชัยโชว์หลักฐาน ที่ดิน Thames Valley เขาใหญ่ อยู่ใน เขตห้ามออกโฉนด อนุทินยืนยันพร้อมให้ตรวจสอบ

โดย THE STANDARD TEAM
24.03.2025
  • LOADING...

วันนี้ (24 มีนาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 26 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 วาระพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันแรก ธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร โดยเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรม Thames Valley เขาใหญ่ ซึ่งแพทองธารถือหุ้นใหญ่ และเคยเป็นกรรมการบริษัทก่อนเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ต้องห้ามตามกฎหมาย ทั้งเขตนิคมสร้างตนเองลำตะคองและพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ซึ่งไม่สามารถออกโฉนดหรือใช้เพื่อการพาณิชย์ได้

 

ธีรัจชัยอ้างอิงแผนที่ของกรมพัฒนาที่ดิน และข้อมูลจาก GISTDA ซึ่งระบุว่าที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ในเขตต้นน้ำลำธารประเภท 1A ตามมติ ครม. ปี 2514 ซึ่งห้ามใช้ประโยชน์หรือออกเอกสารสิทธิ์ แต่กลับพบว่าที่ดินโรงแรมถูกออกโฉนดโดยสมบูรณ์

 

“ถ้าที่ดินของประชาชนทั่วไปถูกเพิกถอนเพราะออกโดยไม่ชอบ ที่ดินของแพทองธารออกมาได้อย่างไร”

 

พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ากระบวนการออกโฉนดของที่ดินแปลงนี้มีความผิดปกติ เพราะครอบครัวแพทองธารซื้อที่ดินในปี 2537 ซึ่งเป็นเพียง น.ส.3 ก. แต่กลับสามารถเปลี่ยนเป็นโฉนดได้ภายในเวลาเพียง 2 ปี ซึ่งเร็วกว่าปกติ

 

นอกจากนี้ เขายังเปรียบเทียบกรณีโรงแรม Thames Valley เขาใหญ่ กับกรณีสนามกอล์ฟแรนโช ชาญวีร์ของครอบครัว อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ โดยระบุว่าที่ดินของสนามกอล์ฟยังคงเป็น น.ส.3 ก. ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นโฉนดได้เพราะอาจทับพื้นที่ ส.ป.ก. แต่ที่ดินของแพทองธารกลับสามารถออกโฉนดได้ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ต้องห้าม พร้อมตั้งคำถามว่า นี่คือการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อเล่นงานคู่แข่งหรือไม่

 

ธีรัจชัยยังชี้ให้เห็นว่า แม้จะมีการออกโฉนดโดยสมบูรณ์แล้ว แต่ตามกฎหมายว่าด้วยนิคมสร้างตนเอง พ.ศ. 2511 การใช้ที่ดินในเขตนิคมเพื่อการพาณิชย์ เช่นการทำโรงแรมหรือสนามกอล์ฟ ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก่อน ทว่า โรงแรม Thames Valley เขาใหญ่ ไม่เคยได้รับอนุญาตดังกล่าว นอกจากนี้ ในปี 2558 รัฐบาล คสช. ได้เข้าตรวจสอบรีสอร์ตในพื้นที่เขาใหญ่และพบว่าโรงแรมแห่งนี้อาจมีปัญหาทางกฎหมาย แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ

 

“นี่คือหลักฐานชัดเจนว่าแพทองธารไม่เพียงแต่ละเมิดกฎหมาย แต่ยังเลือกใช้กฎหมายเพื่อตรวจสอบผู้อื่น ในขณะที่จงใจละเว้นการตรวจสอบตนเองและครอบครัว” ธีรัจชัยกล่าว 

 

ธีรัจชัยชี้ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพิ่งชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่กรมที่ดินที่ออกโฉนดทับพื้นที่ต้องห้ามเมื่อปี 2567 ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ถ้ากรณีอื่นถูกสอบสวนแล้ว ที่ดินของแพทองธารจะรอดไปได้อย่างไร

 

ธีรัจชัยยังเน้นว่า ปัญหานี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของการถือครองที่ดินโดยไม่ชอบ แต่สะท้อนถึงพฤติกรรมของนายกรัฐมนตรีที่ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ใช้อำนาจบริหารอย่างฉ้อฉล และเอื้อประโยชน์แก่ครอบครัวของตนเองเหนือผลประโยชน์ของประเทศ

 

“นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการละเมิดกฎหมาย แต่คือการทำให้กฎหมายกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองของตระกูลชินวัตร”

 

ธีรัจชัยเรียกร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใช้อำนาจที่ได้รับจากประชาชน ลงมติไม่ไว้วางใจ ไม่ให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยย้ำว่านี่ไม่ใช่แค่การตรวจสอบเรื่องที่ดิน แต่เป็นบทพิสูจน์ว่าสภาจะยอมให้ผู้บริหารประเทศละเมิดกฎหมายโดยไม่ต้องรับผิดชอบหรือไม่

 

อนุทินยืนยัน หากโฉนดไม่ถูกต้องพร้อมเพิกถอน

 

ด้าน อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยชี้แจงว่า ขอใช้สิทธิ์พาดพิงหลังจากที่ถูกเอ่ยชื่อตนเอง นามสกุล และคนในครอบครัว โดยขอชื่นชมผู้อภิปรายที่ได้ใช้ช่วงโลว์ซีซันในการโฆษณาโครงการที่เขาใหญ่ให้

 

อนุทินกล่าวต่อว่า การอภิปรายครั้งนี้ ผู้อภิปรายได้อภิปรายเนื้อหาตรงกลาง โดยไม่ได้อภิปรายในจุดเริ่มต้น ครอบครัวของตนเอง หรือครอบครัวของนายกรัฐมนตรี หรือผู้ที่มีที่ดินอยู่ในพื้นที่เขาใหญ่ ก่อนที่ครอบครัวของตนเองได้ซื้อที่ดินแปลงนี้ ตนเองได้มีโอกาสได้ไปสำรวจด้วย ซึ่งคนที่แนะนำกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงนายก อบต. ซึ่งการที่เราได้ตัดสินใจซื้อที่ดินนี้เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุน

 

อนุทินกล่าวว่าตอนที่ซื้อเราเป็นคนนอก และไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ เป็นเพียงนักลงทุนธรรมดา โดยเห็นว่าที่ดินดังกล่าวนี้เป็นที่ดินที่น่าลงทุน และเจ้าของที่ดินเดิมก็มีโฉนดที่ดิน ซึ่งราคาเท่าไหร่ก็เท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือ หากมีการเปลี่ยนมือของการครอบครองที่ดิน ต้องเดินทางไปที่กรมที่ดินเพื่อให้มีการจัดทำโฉนด โอนที่ดิน และมีการจ่ายเงิน ซึ่งยืนยันว่ากระบวนการทุกอย่างทำโดยเจตนาสุจริตทั้งสิ้น มีโฉนด มีตราครุฑ และมีสำนักงานที่ดินประทับรับโอน

 

ทั้งนี้ เมื่อที่ดินดังกล่าวมีการตรวจสอบโดยนักการเมืองท่านหนึ่ง โดยไม่ได้กล้าเข้าไปในสถานที่พื้นที่ดังกล่าว เพราะที่ดินดังกล่าวยังเป็นโฉนดอยู่ โดยมีการเปิดเผยว่า จะมีการไปตรวจสอบว่าเป็นที่ดินของ ส.ป.ก. หรือไม่ หรือเป็นที่ดิน น.ส.3. ก หรือไม่ ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินเท่านั้นที่จะทราบความจริง โดยที่ตนเองไม่สามารถทราบได้ หากตรวจสอบแล้วว่า มีการออกโฉนดที่ไม่ถูกต้อง หากจำเป็นต้องเพิกถอน ก็ต้องเพิกถอน ยืนยันว่าเราทำตามกฎหมาย ยินดีที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย และใช้สิทธิ์ของเราเหมือนที่ดินอัลไพน์ แต่หากที่ดินได้มาโดยสุจริตก็มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องค่าเสียหายเช่นกัน

 

ดังนั้นที่มีการระบุว่า เพราะตนเองเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้องเป็นคนที่ใหญ่กว่าเท่านั้นจึงจะตรวจสอบได้ เรื่องดังกล่าวนี้ เป็นนายกรัฐมนตรีก็ถูกตรวจสอบแล้ว หากตรวจสอบและถูกต้องก็ต้องให้ความเป็นธรรม แต่หากตรวจสอบแล้วไม่ถูกต้องก็ต้องเพิกถอนเป็นเรื่องปกติ แต่เรื่องนี้ผู้อภิปรายได้ทำลายบรรยากาศการลงทุนธุรกิจท่องเที่ยวที่เขาใหญ่ได้หยุดลงอย่างสิ้นเชิง ที่เคยมัดจำไว้ก็ทิ้งมัดจำไปแล้ว ส่วนใครที่คิดว่าจะซื้อก็ไม่ไปซื้อแล้ว คนที่เดือดร้อนที่สุดก็คือประชาชน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising