วันนี้ (19 สิงหาคม) ที่อู่รถเมล์สาย 8 บึงกุ่ม บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด ผู้ให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า เปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 8 (2-38) อย่างเป็นทางการในคอนเซปต์ ‘We Come To Change Fast 8 To Feel Good เรามาเพื่อเปลี่ยนความรู้สึกให้ดีขึ้น’ โดยมี ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิด
หลังพิธีเปิดศักดิ์สยามได้ให้สัมภาษณ์ว่า การเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 8 (2-38) เป็นการคิกออฟการให้บริการรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีเส้นทางการให้บริการจำนวน 237 เส้นทาง แบ่งเป็นผู้ประกอบการเอกชนที่มายื่นขอลายเส้นกับกรมการขนส่งทางบก และการให้บริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
ในวันนี้เป็นการเปิดให้บริการรถโดยสารสาธารณะของผู้ประกอบการที่เป็นเอกชน ซึ่งเป้าหมายในการเปิดให้บริการคือ รถเมล์สาย 8 เป็นสายแรกที่เป็นรถไฟฟ้า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้บริการจำนวน 40 คัน เริ่มให้บริการในวันที่ 20 สิงหาคมเป็นต้นไป พร้อมทั้งตั้งเป้าว่าในอนาคตจะขับเคลื่อนนโยบายนำรถเมล์ไฟฟ้ามาวิ่งให้บริการประชาชนใน กทม. และปริมณฑล ซึ่งรถเมล์สาย 8 เป็นสายแรกที่เริ่มนำร่องในแผนปฏิรูปนี้
ศักดิ์สยามกล่าวอีกว่า ได้มีการประชุมหารือกันถึงเรื่องของการพิจารณาค่าโดยสาร โดยเอกชนได้เสนอไว้เป็นการเก็บค่าบริการเหมือนเดิม เริ่มที่ราคา 15, 20 และ 25 บาทตามระยะทาง โดยเพิ่มเติมว่าหากมีการใช้บริการในวันนั้นครบ 40 บาทไม่ต้องชำระเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการนำบัตร E-Ticket มาให้บริการ สามารถเติมเงินได้ โดยผู้โดยสารซื้อได้จากพนักงานบนรถ
ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือบริษัทสำหรับผู้โดยสารที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้จัดเก็บค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 10 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชาชนที่มีรายได้น้อย จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เป็นอย่างน้อย
ศักดิ์สยามกล่าวต่อไปว่า หลังจากนี้จะมีการประเมินผลปัญหาอุปสรรคการให้บริการในระยะเวลา 60 วัน ว่ามีเรื่องใดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ตอบโจทย์ในการให้บริการขับเคลื่อนเป้าตามแผน พร้อมตั้งเป้านำรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามาวิ่งให้บริการครอบคลุม 5,000 คันในระยะเวลา 3 ปี
จากนั้นศักดิ์สยามและทีมผู้บริหาร บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด ได้ร่วมทดลองนั่งรถเมล์พลังงานไฟฟ้าครั้งนี้ พร้อมกล่าวว่าเป็นการนั่งรถไฟฟ้าในประเทศไทยครั้งแรก แต่เคยนั่งรถเมล์ไฟฟ้าในต่างประเทศมาก่อน ครั้งนี้เป็นการกลับมานั่งรถโดยสารประจำทางอีกครั้ง หลังจากที่เคยใช้บริการช่วงชีวิตวัยเรียนมัธยมศึกษา
ศักดิ์สยามกล่าวด้วยว่า ได้มีการพูดคุยกับกลุ่มผู้ประกอบการ พบว่ามีการใช้ระบบชำระเงินในรูปแบบ E-Ticket ซึ่งจะมีการนำข้อมูลจาก E-Ticket ไปประมวล เพื่อดูว่ามีผู้ใช้บริการในแต่ละเส้นทางมากน้อยแค่ไหน และต้องมีการปล่อยรถในความถี่เท่าใด วันนี้หลังจากได้ทดลองใช้บริการพบว่า รถมีความปลอดภัยอย่างดี มีกล้องรักษาความปลอดภัย สามารถบันทึกภาพต่างๆ ได้ ซึ่งสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร รวมถึงมีอุปกรณ์สำหรับเหตุฉุกเฉินครบครัน
สำหรับการเดินรถของรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 8 (2-38) เส้นทาง แฮปปี้แลนด์-สะพานพุทธ จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 20-21 สิงหาคมนี้ จำนวน 10 คัน จากนั้นในวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม เพิ่มจำนวนเป็น 20 คัน และในสิ้นเดือนสิงหาคมเพิ่มเป็น 40 คัน
ทั้งนี้ ตัวรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 8 (2-38) ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ขนาด 32 เบาะนั่ง (รวมคนขับ) มีพื้นที่สำหรับกลุ่มคนพิการ 2 ที่นั่ง มีระบบรับรองการขึ้น-ลง สำหรับผู้ใช้งานรถเข็นวีลแชร์ มีกล้องวงจรปิดดูแลความปลอดภัยทั้งภายในและภายนอกตัวรถทั้ง 6 ตัว มีระบบจำกัดความเร็วที่ไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีระบบไฟ LED แสดงสถานะรถ ความเร็ว และเวลา รวมถึงระบบควบคุมติดตามการเดินรถจากศูนย์ควบคุมของกรมการขนส่งทางบกด้วย