ทำเนียบบลูเฮาส์ของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (21 เมษายน) คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดีมุนแจอินของเกาหลีใต้ที่กำลังจะพ้นวาระดำรงตำแหน่ง โดยแสดงความขอบคุณต่อความพยายามพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้งระบุว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้สามารถพัฒนาไปได้มากเท่าที่ต้องการ หากทั้งสองฝ่ายมีความพยายามอย่างจริงใจ”
จดหมายของคิมจองอึนที่แสดงถึง ‘มิตรไมตรีอันอบอุ่น’ ต่อผู้นำเกาหลีใต้ครั้งนี้ เป็นการเขียนจดหมายตอบกลับหลังจากที่มุนแจอินได้ส่งจดหมายอำลาตำแหน่งถึงคิมจองอึนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (20 เมษายน) ก่อนที่จะพ้นจากวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี ในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ และส่งมอบหน้าที่ให้กับยุนซอกยอล ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่จากพรรคฝ่ายค้านสายอนุรักษ์นิยม
โดยมุนแจอินนั้นมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีตลอดระยะเวลาดำรงตำแหน่งในช่วง 5 ที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้พบปะกับคิมจองอึนในการจัดประชุมสุดยอดร่วมกันถึง 3 ครั้งในปี 2018 และมีบทบาทในการจัดประชุมสุดยอด 2 ครั้ง ระหว่างคิมจองอึนและโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 2018 และ 2019
ด้านสำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) สื่อกระบอกเสียงของเปียงยางรายงานว่า การเขียนจดหมายโต้ตอบกันระหว่าง 2 ผู้นำ ถือเป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อกันอย่างลึกซึ้ง
“คิมจองอึนชื่นชมในความเจ็บปวดและความพยายามของมุนแจอิน สำหรับการทำเพื่อชาติจนวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง” KCNA ระบุ
ขณะที่ พัคคยองมี โฆษกประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวถึงเนื้อความในจดหมายที่มุนแจอินเขียนให้คิมจองอึน ซึ่งระบุว่า “ในการจับมือประธานคิม ผมได้ความชัดเจนอย่างหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของคาบสมุทรเกาหลี ยุคสมัยแห่งการเผชิญหน้า ควรเอาชนะด้วยการเจรจา”
โดยพัคคยองมียังเผยว่า ผู้นำเกาหลีเหนือได้ระบุในจดหมายว่า “เสียใจที่ไม่สามารถบรรลุผลสำเร็จในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีได้มากเท่าที่หวังไว้”
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีมุนแจอินยังเรียกร้องให้ผู้นำเกาหลีเหนือยอมกลับมาร่วมโต๊ะเจรจากับสหรัฐฯ โดยเร็วอีกครั้ง และเดินหน้ากระบวนการพูดคุยผ่านรัฐบาลใหม่ของเกาหลีใต้ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนใหม่
สำหรับการส่งจดหมายแลกเปลี่ยนระหว่างสองผู้นำ มีขึ้นท่ามกลางบรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ ที่ตึงเครียดขึ้น นับตั้งแต่ที่การประชุมสุดยอดระหว่างคิมจองอึนและโดนัลด์ ทรัมป์ในปี 2019 ประสบความล้มเหลว
ซึ่งเกาหลีเหนือยังเดินหน้าการทดสอบขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา และล่าสุดเมื่อปลายเดือนมีนาคมได้มีการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปฮวาซอง-14 ซึ่งถือเป็นการละเมิดมติขององค์การสหประชาชาติที่ห้ามทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีป
ภาพ: Photo by Pyeongyang Press Corps / Pool / Getty Images
อ้างอิง: