นิสสัน (Nissan) ค่ายรถผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าจากญี่ปุ่นเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของบริษัท ‘B2V’ หรือ Brain-to-Vehicle ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อกันระหว่างสมองผู้ขับและตัวรถยนต์ เพื่อช่วยให้ยานพานะคู่ใจเรียนรู้พฤติกรรมการขับขี่ได้ดีขึ้น ยกระดับประสบการณ์การขับรถดั่งใจคิดและลดอัตราการประสบอุบัติเหตุให้น้อยลง
หลักการทำงานของ B2V คือ ตัวรถจะอ่านค่าคลื่นความถี่ไฟฟ้าจากสมองคนขับผ่านอุปกรณ์ตรวจคลื่นสมอง (Electroencephalography) ก่อนตีความเป็นคำสั่งออกมา เช่น เมื่อเราแค่คิดจะให้รถเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือเบรก ตัวรถก็จะทำการอ่านค่าจากสมองทันทีก่อนปฏิบัติตามความต้องการผู้ขับ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาในการประมวลผลแค่ 0.2-0.5 วินาทีเท่านั้น
นิสสันมองว่าในอนาคต เทคโนโลยี B2V จะเป็นประโยชน์ต่อรถยนต์ไร้คนขับ (Self-Driving Car) มากๆ เพราะจะช่วยผสมผสานตัวผู้ขับและยานพาหนะคู่ใจให้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไร้รอยต่อ นั่นหมายความว่ารถยนต์ไร้คนขับในภายภาคหน้าอาจจะไม่ได้ถูกควบคุมด้วยตัวเครื่องยนต์เพียงลำพังอีกต่อไป
Lucian Gheorghe นักวิจัยอาวุโสแผนกนวัตกรรมนิสสันในเมืองอะสึงิให้สัมภาษณ์ผ่านคลิปสาธิตการใช้งานแบบสั้นๆ ว่า นิสสันเป็นผู้ผลิตรถยนต์เจ้าแรกที่นำระบบการอ่านค่าจากสมองแบบเรียลไทม์มาใช้ในการขับขี่รถยนต์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสนุกให้ผู้ขับและยกระดับประสบการณ์ใช้รถยนต์ไร้คนขับที่ดีขึ้น
“พวกเราได้พัฒนาอุปกรณ์และอัลกอริทึมเฉพาะทางที่ช่วยให้เข้าใจคลื่นสมองของมนุษย์ ก่อนตีความออกมาเป็นลักษณะการขับรถแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยให้คาดการณ์การบังคับพวงมาลัยของผู้ขับล่วงหน้าได้ ระบบของเราจะแจ้งตัวรถยนต์ไร้คนขับได้ว่าผู้ขับจะหมุนพวงมาลัยในอีก 300 นาที หรือ 300 วินาทีข้างหน้า”
ด้าน Daniele Schillaci รองประธานกรรมการบริหารบริษัทนิสสันบอกว่า เมื่อคนส่วนใหญ่คิดถึงยานยนต์ไร้คนขับก็จะคิดถึงการไม่ต้องควบคุมใดๆ ทั้งสิ้นแล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์แทน แต่ในกรณีของเทคโนโลยี B2V กลับเลือกทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามด้วยการใช้คลื่นสมองของเราเพื่อช่วยให้การขับขี่น่าตื่นตาตื่นใจและสนุกมากยิ่งขึ้น
ถึงอย่างนั้นก็ดี B2V ยังอยู่ในช่วงระยะแรกๆ ของการพัฒนาอยู่ และคาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีก 5-10 ปี ต่อจากนี้เพื่อปรับปรุงให้ระบบเกิดความเสถียรและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนิสสันจะเปิดตัวและสาธิตเทคโนโลยีดังกล่าวแบบเต็มๆ ที่งานจัดแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยี CES 2018 ในช่วงระหว่างวันที่ 9-12 มกราคมนี้
https://www.youtube.com/watch?time_continue=39&v=oCi6taII6Yo
อ้างอิง:
- Nissan