ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับขึ้นร้อนแรงในช่วงเช้าวันนี้ (3 กันยายน) หลังมีรายงานว่านายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ จะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลังขึ้นตำแหน่งมาเพียง 1 ปี และจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้นำของพรรค ซึ่งจะจัดขึ้นภายในปลายเดือนนี้ ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปช่วงกลางเดือนตุลาคม
โดยดัชนี Nikkei 225 ปรับเพิ่มขึ้นราว 1.9% ในขณะที่ดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 1.56% หุ้นที่อยู่ในภาคการผลิตของญี่ปุ่นปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดย Fanuc เพิ่มขึ้น 3.1% ในขณะที่ JFE Holdings เพิ่มขึ้น 5.67%
แรงซื้อในตลาดหุ้นรอบนี้เกิดขึ้นหลังจากสื่อหลายสำนักระบุตรงกันว่า ซูงะ จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้นำพรรคที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าประเทศเตรียมจะมีผู้นำคนใหม่ ทั้งนี้ ซูงะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการจัดการสถานการณ์โควิดในญี่ปุ่น รวมถึงการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่กรุงโตเกียวในขณะที่โตเกียวอยู่ภายใต้ภาวะฉุกเฉิน
ส่วนตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ปรับตัวลดลง โดย Shanghai Composite ลดลง 0.15% ในขณะที่ Shenzhen ลดลง 0.556%
ทั้งนี้ มีรายงานดัชนีการจัดซื้อของไฉซิน หรือดัชนี PMI อยู่ที่ 46.7 เทียบกับเดือนกรกฎาคมที่ 54.9 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปี 2563
ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงร่วง 0.54% หุ้น Alibaba ร่วงลงมากกว่า 3% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทจะลงทุน 100 พันล้านหยวน หรือประมาณ 1.55 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในปี 2568 เพื่อ ‘ความมั่งคั่งร่วมกัน’
ส่วนตลาดหุ้นเกาหลี ดัชนี Kospi ปรับเพิ่มขึ้น 0.72% และดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.63% ดัชนี MSCI ไม่รวมญี่ปุ่นซื้อขาย เพิ่มขึ้น 0.16%
ส่วนคืนวานนี้ ดัชนี Dow Jones พุ่งขึ้น 131.29 จุด มาอยู่ที่เป็น 35,443.82 จุด ในขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.28% เป็น 4,536.95 จุด Nasdaq Composite ขยับขึ้น 0.14% ไปอยู่ที่ 15,331.18 จุด โดยนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม ซึ่งจะเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ
อ้างอิง: