นักวิเคราะห์แนะ Nike เร่งระบายสินค้าคงคลังมูลค่ากว่า 9.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ต้องไม่ใช่วิธีลดราคา เพราะอาจทำให้กลับไปขายราคาเต็มไม่ได้อีกหรือยากขึ้น พร้อมบุกหนักตลาดจีน หลังไตรมาสล่าสุดยอดขายเพิ่มขึ้น 6%
Business Insider รายงานว่า Bob Woodell ผู้บริหารระดับสูงของ Nike กล่าวว่า ขณะนี้สินค้าคงคลังของ Nike อยู่ในระดับสูงขึ้นมาก โดยได้เปรียบให้เห็นภาพอีกว่าเหมือนมะเร็งที่จะกำลังกัดกินร่างกายเรา ถ้ายังไม่แก้ไขอาจจะได้รับผลกระทบในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Nike แบรนด์ที่ทำรายได้จาก NFT มากที่สุดด้วยยอดขาย 6.7 พันล้านบาท สวนทางตลาดรวมที่มีการซื้อขายลดลง 40%
- ‘Nike’ ห่วงตลาดจีนซบหลังโควิดยืดเยื้อ เร่งหาช่องทางใหม่ ล่าสุดเปิดร้านในอิตาลี เสริมประสบการณ์ช้อปแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ
- ‘adidas’ เกาะกระแสบอลโลก แม้เยอรมนีตกรอบทำแฟนบอลสนใจสินค้าลดลง ตั้งเป้าดันยอดขายแตะ 421 ล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์ของ Wall Street ระบุว่า สิ่งสำคัญที่ Nike ต้องปรับตัวเป็นอันดับแรกคือ ต้องเร่งระบายสินค้าคงคลัง และทำให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นในประเทศจีน พร้อมกับการรับมือการแข่งขันกับ adidas ที่เพิ่งมีแม่ทัพคนใหม่อย่าง Bjorn Gulden
หากย้อนกลับไปในเดือนธันวาคม 2022 Nike รายงานว่าสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น 43% โดยได้นำสินค้าทั้งรองเท้าและเสื้อผ้าออกมาลดราคาเพื่อล้างสต๊อก และหากคิดมูลค่าสินค้าในคลังรวมๆ แล้วมากกว่า 9.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ยิ่งไปกว่านั้นผู้บริหารของ Nike มองข้ามสินค้าคงคลังที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสังเกตจากความต้องการของผลิตภัณฑ์ และผลกระทบของห่วงโซ่อุปทานที่ส่งผลต่อร้านค้าปลีกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
Brian Yarbrough นักวิเคราะห์วิจัยอาวุโสของ Edward Jones กล่าวว่า ระดับสินค้าคงคลังจะเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของปี 2023 และเมื่อไรก็ตามที่แบรนด์นำสินค้ามาลดราคา ต่อไปปัญหาใหญ่ที่ตามมาคือจะสามารถกลับไปใช้ราคาเต็มแบบเดิมได้หรือไม่
ทั้งนี้ ตลาดจีนยังเป็นปัญหาหลักของ Nike เพราะจีนเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก และผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญในการสั่งสินค้าผ่านช่องทางดิจิทัล
แต่ในทางกลับกัน ยอดขายของ Nike ในจีน ปีงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2022 ลดลง 9% เหลือ 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจีนคิดเป็น 17% ของยอดขายรวม Nike
Poonam Goyal นักวิเคราะห์อีคอมเมิร์ซและกีฬาอาวุโสของ Bloomberg Intelligence ระบุว่า ตลาดจีนเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของแบรนด์กีฬาหลายแบรนด์ ไม่ใช่แค่ Nike ซึ่งหากไม่ปรับตัวก็จะไม่เห็นการฟื้นตัวในเร็วๆ นี้
ก่อนหน้านี้ Simeon Siegel กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัยตราสารทุนของ BMO Capital Markets กล่าวว่า ดูเหมือน Nike จะพลิกมุมในตลาดจีน เห็นได้จากรายงานยอดขายไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 30 พฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 6% ในจีน
John Donahoe ซีอีโอ Nike กล่าวต่อไปว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทเริ่มประสบความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และยังเชื่อว่าจีนยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตและมีศักยภาพ โดยเฉพาะหลังจากการเปิดประเทศ
ด้านนักวิเคราะห์ยังให้มุมมองอีกว่า Bjorn Gulden ซีอีโอคนใหม่ของ adidas ซึ่งเคยทำงานเป็นซีอีโอของ PUMA มาก่อน จะสามารถเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้ adidas สามารถแข่งขันกับ Nike ได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม Nike และ adidas นับเป็นคู่แข่งกันมานานหลายทศวรรษ แต่ยอดขายยังทิ้งห่างกัน โดยในปี 2021 Nike มียอดขาย 46.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน adidas รายงานยอดขาย 21.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อ้างอิง: