“คุณต้องมาดูนี่ ผู้นำเรซ CCC กำลังจะวิ่งผ่านจุดนี้ ผมอยากให้คุณได้เห็นบรรยากาศ”
ชายวัยกลางคนชาวฝรั่งเศสเดินมาสะกิดผมหน้าจุดเชียร์นักกีฬาของการวิ่งระยะ CCC ที่ชาโมนกซ์ เมืองหลวงของการวิ่งเทรล เพื่อดึงผมกลับไปดูบรรยากาศการเชียร์นักกีฬา
เมื่อนักกีฬาคนที่วิ่งนำผ่านจุดนั้นไปพร้อมกับเสียงเชียร์ คนข้างๆ ผมหันมาถามว่า คนที่ลากคุณกลับมาดูคือใครเหรอ
ผมตอบกลับไปสั้นๆ ว่า “อ๋อ คนนั้นคือ Nicolas Mermoud ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ HOKA แบรนด์รองเท้าที่แชมป์ในปีนี้ใส่น่ะ”
HOKA ถือเป็นแบรนด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แบรนด์สัญชาติฝรั่งเศสที่มีบริษัท Deckers จากสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าของ เริ่มต้นเมื่อปี 2009 จาก Jean-Luc Diard และ Nicolas Mermoud คู่หูนักวิ่งเทรลชาวฝรั่งเศส
เมื่อปี 2022 ทำสถิติมียอดขายทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และไตรมาสแรกของปี 2024 Deckers เปิดเผยว่ายอดขายของ HOKA สูงขึ้น 34% จากปีที่แล้ว ด้วยยอดขาย 533 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
รวมถึง Forbes ยังยกย่อง HOKA ว่าเป็นแบรนด์ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าน่าเกลียด แต่ปัจจุบันยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นที่เป็นรองเท้าที่สวมใส่สบาย
จากการทักทายในวันนั้น ผมได้โอกาสติดต่อขอสัมภาษณ์ Nicolas Mermoud ถึงจุดเริ่มต้นและวิสัยทัศน์เป็น Innovation Mindset เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ HOKA ตั้งแต่จุดเริ่มต้น
HOKA ONE ONE ได้แรงบันดาลใจจากชนเผ่าเมารีได้อย่างไร
Nicolas Mermoud(คนซ้าย) และ Jean-Luc Diard สองผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ HOKA
มีหลายปัจจัยที่คุณต้องเข้าใจตอนที่คุณสร้างแบรนด์ คุณต้องคำนึงถึงหลายอย่าง ทั้งวัฒนธรรม ดีเอ็นเอ และสิ่งที่คุณต้องการสื่อสารกับแบรนด์ ในเคสนี้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องของการบิน และเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของการวิ่งทั้งบนลู่และบนถนน ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับอะดรีนาลีนและการผจญภัย
อย่างที่สองคือ จากประสบการณ์วิ่งเทรลและแข่งขันของเรา เราได้ไปในที่ที่เราชื่นชอบมาก วิ่ง หรือออกกำลังกาย
ในอดีตเราเดินทางไปเกาะต่างๆ ที่เรามีความทรงจำที่ดี และนิวซีแลนด์คือหนึ่งในนั้น และที่เกาะ Mafate (เกาะในคาบสมุทรอินเดีย) ซึ่งเป็นที่มาของการตั้งชื่อรองเท้ารุ่นแรกว่า Mafate
นอกจากนี้ยังมีที่ออสเตรเลียที่เราได้ชื่อ Bondi รองเท้ารุ่นสำหรับการวิ่งถนนจากหาด Bondi ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากทั้งในแง่ของจิตวิญญาณ การตลาด และส่งต่อดีเอ็นเอของแบรนด์ผ่านชื่อ
แน่นอนว่าคุณต้องผสมผสานเข้ากับองค์ประกอบอื่นๆ เช่น ธุรกิจ ความรู้สึกต่อชื่อ เรามีชื่อที่สั้น ที่ต้องผสมกับด้านลิขสิทธิ์และกฎหมาย ผมบอกคุณได้เลยว่า ถ้าจะจดลิขสิทธิ์แบรนด์ที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับการบิน ในปี 2009 ตอนนั้นก็มีคนคิดเรื่องนี้มาก่อนคุณเยอะมากแล้ว ดังนั้นคุณต้องดูเรื่องของลิขสิทธิ์ที่เราจะสามารถจดทะเบียนได้ด้วย จึงคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ รวมกัน
เราดูนิวซีแลนด์และภาษาเมารี HOKA เป็นหนึ่งคำที่มีหมายความว่า บิน หรือการทรงตัวบินขึ้นไป ตอนนั้นมีคำถามเกี่ยวกับความเสี่ยงในตอนแรกเหมือนกัน เราก็มีเวลา 2-3 วันก่อนจดลิขสิทธิ์บริษัท เราก็ตัดสินใจเพิ่มคำว่า ONE ONE เข้าไปในชื่อ ที่มีความหมายว่า ดิน แบรนด์จึงมีความหมายในตอนแรกว่า บินอยู่เหนือพื้นดินหรือภูเขา
เรารู้ว่าคนจะเรียกว่า HOKA แต่คนที่รู้จักแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้นคือ HOKA ONE ONE นั่นก็เป็นความสำเร็จจากจุดเริ่มต้น
นอกจากนี้ตอนที่ผมอยู่นิวซีแลนด์และเจอคนเมารี ตอนที่ทำธุรกิจส่งออกให้กับบริษัทอุปกรณ์กีฬาฤดูหนาวในเกาะใต้ที่ไครสต์เชิร์ช สิ่งที่คนไม่ค่อยรู้ในโลกการแข่งขันแบบผจญภัยหรือ Adventure Racing คือ ทีมที่ดีที่สุดในโลกคือทีมจากนิวซีแลนด์
ตอนนั้นทีมชื่อว่า Seagate (ปัจจุบันชื่อว่า Team Avaya) และหนึ่งในนั้นคือคนที่ชื่อ Nathan Fa’avae เป็นนักกีฬาเมารีที่ยิ่งใหญ่มาก และทีมเราได้รับแรงบันดาลใจเยอะมากจากพวกเขา ไม่ใช่เพียงแค่สำหรับความแข็งแกร่งและความเร็ว แต่ด้านจิตวิญญาณด้วย
เบื้องหลังแนวคิดรองเท้า Big Sole & XXXL Mindset คืออะไร
จุดเริ่มต้นไอเดียคือความเร็วและการฝึกซ้อม ไอเดียของการป้องกัน ความสบาย และความนุ่ม เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการ
“เราต้องการความเร็วในธรรมชาติ เมื่อคุณเริ่มคิดถึงความเร็วตอนที่คุณกำลังทำความเร็ว แม้ว่าคุณจะมีน้ำหนักที่เบาอยู่แล้ว ในเส้นทางที่เต็มไปด้วยผิวที่ขรุขระ คุณจะไม่ได้รับการป้องกันที่ดีพอ คุณจะไม่สามารถป้องกันเท้าได้หากคุณมีรองเท้าพื้นบางแบบ Minimalist และไอเดียจากจักรยานเสือภูเขาที่มีโช้ค สกี และรถยนต์ คุณต้องมีอะไรบางอย่างที่ช่วยรับแรงกระแทกและสภาพของพื้นผิวที่ไม่เรียบ
“นั่นคือสิ่งแรก เราทำจากการผสมผสานองค์ประกอบต่างๆ ที่ไม่ได้มาจากการแข่งขันกีฬา แต่เทคโนโลยีรองเท้าเพื่อสุขภาพ และผสมเข้ากับองค์ประกอบที่ทำให้การเดินและวิ่งไหลลื่นขึ้น
“อย่างที่สองคือ ความใหญ่ขึ้นทั้งในภาพลักษณ์และความแตกต่างของรองเท้าในมุมมองของลูกค้า และความเบาที่ทำให้คุณมีโอกาสที่จะได้โฟมที่เบา ในคอนเซปต์ XXXL ที่ทั้ง Xtra ที่ใหญ่ขึ้นและเบาขึ้น นั่นคือไอเดีย”
Minimalist vs. Maximize HOKA หาตลาดของตัวเองในวันที่สวนทางกับคนอื่น
“เราเริ่มต้นในตอนแรก เราไม่ได้เห็นกระแส Minimalist Movement นั่นเป็นกระแสที่เริ่มขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อมโยงกับประสบการณ์และวัฒนธรรมเรื่องเล่าตำนานการวิ่งในเม็กซิโก
“เราไม่ได้ตอบโต้กับกระแสที่เกิดขึ้นตอนนั้นว่า โอเค ทุกคนทำรองเท้าพื้นเรียบแบน และเราจะทำรองเท้าพื้นสูงแบบตรงกันข้าม
“เราทำหนทางของเราเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล เพราะคุณไม่สามารถวิ่งหรือเดินในเส้นทางป่าเขาโดยไม่มีอะไรป้องกัน
“อย่างที่สองที่สำคัญมากคือ ทุกคนคิดถึงเรื่อง Minimalist ตอนนั้น เพราะว่าการคิดถึงสินค้าและความต้องการของผู้คน และเป้าหมายที่คุณต้องการทำ
“แต่ความต้องการคือ การผ่อนคลายและต้องการเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ Minimalist Shoes มาจากการมาจากธรรมชาติ ใกล้ชิดกับพื้นมากขึ้น เรื่องของจิตวิญญาณ และการทำสมาธิ
“แต่การที่จะวิ่งในรูปแบบที่เขาวิ่งกันในเม็กซิโก เคนยา หรือเอธิโอเปีย ที่เรามีนักวิ่งที่ดีที่สุดในโลกที่วิ่งได้ลื่นไหลมาก ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะมีเครื่องช่วยป้องกัน
“ถ้าเราพูดถึงชนเผ่า Tarahumara ในเม็กซิโก ทุกคนคิดว่าพวกเขาวิ่งเท้าเปล่า แต่จริงๆ พวกเขาใช้ยางบางอย่างติดเท้าวิ่ง (พวกเขาใช้ Tarahumara Huarache)”
รองเท้า Tarahumara Huarache
ภาพ: Earth Runners
“ส่วนในตลาดที่เราหา เราได้ความต้องการจากดีลเลอร์และร้านค้าต่างๆ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ เราทำงานร่วมกับลูกค้าในการพัฒนาเทคโนโลยี ไม่ใช่เพียงแค่มองเห็นสินค้า แต่ได้ลองใช้ พวกเขาก็เริ่มเข้าใจในรองเท้าที่ไม่ใช่แค่ป้องกัน แต่มีความมั่นคงในการวิ่ง ทำให้หลายคนตื่นเต้นมาก เราเริ่มต้นเพียงไม่กี่ร้าน ก่อนจะเพิ่มเป็นหลักสิบ และร้านที่ใหญ่ขึ้นในสหรัฐฯ ก็ช่วยให้เราหาตลาดของเราเจอ
“นอกจากนี้ในยุคแรกเรามีรองเท้ารุ่นต้นแบบที่คนได้รู้จักกับรองเท้ารูปแบบ Rocker Shoes (รูปทรงรองเท้าที่โค้งเหมือนกับเก้าอี้โยก) ตอนปี 2009 ที่ UTMB Mont-Blanc เราตัดสินใจเปิดหน้าร้านในพื้นที่เล็กๆ ให้คนทดลองรองเท้า ไม่ได้ขายอะไร แต่ให้ลองรองเท้าต้นแบบ
“ครั้งแรกที่คนเห็นรองเท้า HOKA บางคนก็ตัดสินใจใช้แข่งเลย แม้ว่าตอนนั้นยังไม่ใช่รุ่นที่พัฒนาไปไกลมากแล้ว และเอากลับมาคืนเราตอนจบสัปดาห์ของการแข่งขัน”
มุมมองต่อการถูกตีตราว่าเป็น Ugly Shoes
จริงๆ เป็นมุกตลก ไม่ใช่คนคิดว่าน่าเกลียด เป็นมุกเฉยๆ จากนักข่าวหรือลูกค้า
เนื่องจากเราเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นในตลาดลักชัวรีเมื่อ 5 ปีก่อน
แน่นอนว่ารองเท้าคู่แรกๆ เราเลือกสีที่สดมาก และนั่นเป็นก้าวใหญ่มากของเรา ตอนที่เรามีวัตถุประสงค์ของรองเท้า อย่างแรกคือ มาพร้อมกับการออกแบบและสไตล์ที่แตกต่างจากสิ่งที่เคยมีมา และนั่นทำให้บางคนรู้สึกแปลกตอนแรกและไม่เข้าใจ
แต่เมื่อคุณอธิบายสไตล์ผ่านแง่มุมของวัตถุประสงค์
A ผู้คนเริ่มเข้าใจและโอบรับเทคโนโลยี
B มีโอกาสที่จะกลายเป็นเทรนด์หรือกระแสได้
เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างนวัตกรรม ทั้งการออกแบบและสไตล์ และสุดท้ายถ้าคุณทำอะไรก็ตามโดยไม่มีจุดประสงค์ ก็จะกลายเป็นกลวิธีเฉยๆ ซึ่งบางครั้ง เช่น ในแฟชั่นโชว์ เห็นชุดที่แปลกๆ ที่ไม่มีจุดประสงค์หรือนวัตกรรมใดๆ ก็ไม่มีโอกาสใดๆ เป็นเพียงสิ่งที่อยากทำและไม่ได้สร้างผลกระทบ แต่ถ้าการออกแบบมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์บางอย่าง ก็จะเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันมากและจะสามารถสร้างกระแสได้
ผมยกตัวอย่าง เช่น รถ Porsche 911 Turbo เทียบกับรถสปอร์ตรุ่นอื่นๆ พวกเขามีท้ายรถที่ใหญ่และอ้วนมากที่ไม่ดูสปอร์ตเลย และใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อคุณไปเทียบกับ Ferrari การออกแบบก็แตกต่างกันมาก แต่นั่นก็เพราะเทคโนโลยีของรถที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบ เพราะพลังงานจากเครื่องยนต์ไปสู่ล้อและพื้นต้องสูญเสียไปเยอะจากเครื่องยนต์ด้านหน้ารถ พลังงานต้องเดินทางไปไกลกว่าจะลงถึงพื้นที่ล้อหลัง ซึ่ง Porsche 911 Turbo เครื่องยนต์อยู่ด้านหลัง และประสบการณ์การขับขี่ก็แตกต่างออกไป บางคนชอบมากกว่า
เราจึงอาจจะพูดได้ว่า ในวันที่ทุกคนออกแบบรองเท้าไปในทิศทางหนึ่ง HOKA มาและได้ออกแบบ Porsche 911 Turbo แห่งรองเท้าก็ว่าได้
สีของ HOKA ที่ถูกยกให้เป็น Dreamy Colorway
สามสีหลักของแบรนด์ในจุดเริ่มต้นคือ สีฟ้า Cyan Blue คือสีตัวแทนของท้องฟ้า เป็นสีฟ้าที่เรียบง่ายผสมกับสีขาว และสีเหลืองแบบ Neon Yellow นี่เป็นสีประจำของ HOKA
รองเท้ารุ่นแรกของเรา เราต้องการสร้างอิมแพ็กต์ เราใช้ Cyan Blue กับสีส้ม และ Neon Yellow กับสีขาว-ดำ นั่นเป็นสองสีแรกของ HOKA ตอนนั้นเราอาจจะทำเกินไปหน่อยในสีฟ้ากับส้ม หลังจากนั้นเราก็ทำตลาดกับสีที่สดใสมากขึ้น
หลังๆ Deckers ก็ทำเรื่องของสีได้ดีขึ้น Dreamy Colorway ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะพวกเขาอยากโปรโมต Happy Run-walk เป็นสีที่สนุกขึ้น และแน่นอนว่ายังเน้นเรื่องของเพอร์ฟอร์แมนซ์กับเทคโนโลยีใน MIDSOLE
เราเห็นรองเท้ายูนิเซ็กซ์กับสีส้มอ่อน เป็นการตัดสินใจที่กล้าและเสี่ยง แต่ก็สามารถทำออกมาได้สำเร็จ แม้ในประเทศอย่างสหรัฐฯ ในประเทศต่างๆ เราก็เห็นสีสันที่มากขึ้นในรองเท้า และเป็นหนึ่งในเบื้องหลังความสำเร็จของรองเท้า HOKA ที่ใส่แล้วดูสนุกและมีความสุข
นอกจากนี้ยังมีโลโก้ด้านหลังและด้านข้างที่ทำให้เราแตกต่าง สีต้องเป็นการตัดสินใจแรกๆ เรามีทีมที่ดี ดูแลด้านนี้โดยเฉพาะ และเป็นดีเอ็นเอของแบรนด์ เราอยากจะให้เป็นจุดแข็งและจุดที่เราต่าง
จริงไหมที่บางคนเริ่มที่จะยอมเลือกรองเท้าที่สวยน้อยกว่า แต่ใส่สบายกว่า
ผมไม่เชื่อแบบนั้น ผมคิดว่ารองเท้าที่เราพูดถึงมีสไตล์ ความสวยงาม และความซับซ้อนของวัสดุ แบรนด์เราก็มีสไตล์ที่ดีอยู่แล้วในหัวเมืองต่างๆ ลอนดอน นิวยอร์ก และโตเกียว
เรากลายเป็นแบรนด์ที่มีสไตล์สวยงาม และไม่ใช่เพราะแบรนด์เราดี แต่นักออกแบบรองเท้าเราทำได้ดี และเมื่อคุณได้รับการยอมรับว่าเป็นรองเท้าที่มีสไตล์สวยงามในกลุ่มรองเท้ากีฬา และคนชื่นชอบ ตอนนี้คนก็จะเริ่มมาให้ความสำคัญกับความสบายในการสวมใส่มากขึ้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดยังคงเป็นสไตล์ แต่สิ่งที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คือความสบายในการสวมใส่ ซึ่งเราก็กำลังคว้าชัยชนะในตลาดนี้มากขึ้น
Running is the new streetwear?
View this post on Instagram
HOKA Mafate Speed 4 Lite STSFY การคอลแลบกันระหว่างแบรนด์ Sastify x HOKA ในรองเท้ารุ่นพิเศษที่ออกแบบที่ปารีส ฝรั่งเศส พัฒนาที่พอร์ตแลนด์ สหรัฐฯ และทดสอบที่เทือกเขาแอลป์ ฝรั่งเศส
ผมคิดว่ากระแสนี้จะยังคงอยู่ต่อไป นี่เป็นจุดเริ่มต้นมากๆ เราเรียนรู้ว่าลูกค้าอยากได้ความเชื่อมโยงทางความรู้สึกกับแบรนด์
คุณดูแบรนด์ต่างๆ ที่ใช้ในการเดินเขา ซึ่งโด่งดังในเมือง ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ลูกค้าเหล่านี้ต้องการเรื่องราวและนวัตกรรม พวกเขาต้องการสินค้าที่เจ๋งและมีจุดประสงค์ที่ดี
สินค้าไลฟ์สไตล์แรกของเราคือ HOKA ONE ONE Tor Ultra ซึ่งเป็นรองเท้าที่ประสบความสำเร็จ มีคนใส่มันที่ลอนดอน ปารีส และสหรัฐฯ
บางคนก็ต้องการสิ่งที่แตกต่างไปจากคนอื่น นอกจากนี้ยังมีเรื่องของธรรมชาติ และคนในเมืองที่รู้สึกเครียด อยากจะรู้สึกได้ถึงอิสระและความตื่นเต้นบางอย่างจากสินค้าเอาต์ดอร์
เมื่อคุณมองหาอิสรภาพที่แท้จริง ก็จะนึกถึงการเข้าถึงกีฬาที่ยากลำบากมากๆ เช่น Paragliding หรือ BASE Jumping และคุณก็มีกิจกรรมเดินเขา สำรวจธรรมชาติ ซึ่งการเดินเขาก็อยู่กับธรรมชาติมากกว่า เพราะคุณเดินอยู่บนดิน ถ้าคุณเริ่มเซิร์ฟก็จะแตกต่างไป เพราะคุณไม่ได้เดินบนดินจริงๆ
ความรู้สึกของคนที่ต้องการเข้าถึงธรรมชาติ และความเจ๋งของกิจกรรมที่อยู่กับธรรมชาติและความรู้สึกที่เป็นอิสระ
สิ่งที่ยากคือแรงบันดาลใจจากภูเขา เพราะสมัยก่อนเราเข้าถึงยอดภูเขาได้ยาก ทั้งการปีนเข้าถึงและพื้นผิวหิมะ แต่ตอนนี้มีการวิ่งเทรล เราก็เข้าถึงส่วนต่างๆ ของภูเขาที่อาจจะไม่สูงมาก และมีธรรมชาติทั้งแม่น้ำและต้นไม้ต่างๆ และความเร็วเพิ่มขึ้น
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการผสมผสานระหว่างความต้องการของลูกค้ากับธรรมชาติ และไอเดียของการเชื่อมโยงกับธรรมชาติและความรู้สึกติดดิน ผ่านเทคโนโลยีรองเท้าที่ช่วยให้คุณเข้าถึงพื้นที่และพื้นผิวที่มีความยากลำบากมากๆ ในโลกเอาต์ดอร์ที่ไม่โหดมากขนาดภูเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งอาจจะน่ากลัวเกินไป
แต่การวิ่งเทรล และผมไม่ได้พูดถึงแค่แบรนด์ HOKA ผมว่ามีโอกาสที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนมากกว่าแค่การทำกิจกรรมนั้นๆ แต่มีโอกาสที่จะเป็นยุคใหม่ของการวิ่ง ไม่ว่าคุณจะวิ่งในสวนของพื้นที่ในเมืองด้วยความฝันที่จะไปถึงชาโมนิกซ์ได้ในวันหนึ่ง หรือเรซอื่นๆ ซึ่งเรามีวัฒนธรรมแข็งแกร่งมากในกิจกรรมนี้
ดีเอ็นเอของ HOKA คืออะไร
จุดเริ่มต้นดีเอ็นเอของแบรนด์ จุดแข็งของเราคือการสร้าง Benchmark หรือการเปรียบเทียบ การมองหาความสำเร็จที่อยู่นอกวัฒนธรรมและเทคโนโลยีของการวิ่ง เช่น การวิ่งเทรล เราก็มองไปที่สิ่งที่ดีที่สุดในโลก ในการลงภูเขา เช่น จักรยานเสือภูเขา หรือสกี และหาเหตุผลว่าทำไมสิ่งเหล่านั้นถึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเรานำเอาเทคโนโลยีนั้นมาหาคำตอบว่าจะทำให้การวิ่งของเรารู้สึกเหมือนกับการบินหรือเคลื่อนที่แบบพลิ้วไหวให้ได้มากกว่าความรู้สึกถึงการก้าวเดิน
อีกสิ่งที่สำคัญมากของเราตอนเริ่มต้นคือ ความฝัน การออกแบบ และทดสอบ
Create and Test
สิ่งที่สำคัญไม่ใช่สไตล์ของรองเท้า การอธิบายนวัตกรรม หรือวัสดุที่เราใช้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรู้สึก ถ้าคุณคิดถึงดนตรีที่เรามีดีเจตามเฟสติวัลต่างๆ คุณมีเทคนิคที่น่าตื่นเต้นมาก มีเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย แต่สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณภาพเสียงและอารมณ์ที่ทำให้คนรู้สึกในตอนนั้น
ดังนั้นเราอยากอยู่ในกลุ่มของคนที่สนใจในบรรยากาศและประสบการณ์ เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดของเราคือ Create and Test
นี่คือหลักการของเราต่อนวัตกรรม มองออกไปข้างนอกอุตสาหกรรมของเรา สร้างบางอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน และเราไม่ได้พยายามพัฒนาแค่ 5-10% แต่พยายามพัฒนาให้ได้ 100% และจากจุดนั้น จากความฝันนั้น การสร้างอะไรบางอย่าง ออกแบบมัน และนำเอาเทคโนโลยีจากสิ่งอื่นๆ มาทดสอบ และกลับมาเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง
ผมตื่นเต้นที่เห็นแบรนด์และทีมเติบโต รวมถึงในไทยและเอเชีย เป็นช่วงเวลาที่ดีมาก เราเริ่มต้นด้วยการมีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในสหรัฐฯ และจากนั้นเติบโตกลับมาที่ยุโรปและระดับโลก เป็นความฝันที่เป็นจริงที่ได้เห็นคนหลายรุ่นและหลายเชื้อชาติโอบรับแบรนด์
ผมอยากพูดถึงเหตุการณ์หนึ่งในชาโมนิกซ์ ตอนที่เรากำลังเตรียมคำพูดในการประชุมกับลูกค้าต่างๆ ผมถามพนักงาน HOKA คนหนึ่งว่า อยากให้แบรนด์ได้รับการจดจำไว้อย่างไร เขาบอกผมว่า ผมอยากให้คนเข้าใจว่าสิ่งที่เราทำมาตลอด 15 ปีที่ผ่านมา เราอยากเป็นแบรนด์ที่คนรักมากที่สุดในโลก มีความเชื่อมโยงทางความรู้สึกกับชุมชน ไม่ใช่ว่าเราอยากได้ส่วนแบ่งตลาด 30% หรือมีรองเท้าที่เบาที่สุด แต่ทุกอย่างที่เราต้องการคือความเชื่อมโยงของแบรนด์กับลูกค้า
ผลการแข่งขันของ Vincent Brouillard พนักงานของ HOKA ที่คว้าแชมป์ UTMB Mont-Blanc 2024 ทำให้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง
ความรู้สึกที่ผมมีอย่างแรงกล้าคือ เรากำลังกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของ UTMB ที่แม้ว่าปัจจุบันนักกีฬามีผู้สนับสนุนต่างๆ มากมาย แต่ผมยังไม่คิดว่าเราสามารถเรียกการวิ่งเทรลเป็นกีฬาอาชีพได้ 100% เหมือนกับจักรยาน กรีฑาประเภทลู่และลาน หรือเทนนิส
หลายคนที่เคยคว้าแชมป์ UTMB พวกเขาเคยทำงานปกติมา จนวันหนึ่งพวกเขารู้ว่ามีความสามารถด้านสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง ความอึด รวมถึงความบ้าคลั่ง ที่คิดว่าพวกเขาสามารถทำอะไรเป็นเวลานาน และได้โอกาสใช้ชีวิตตามความฝัน
ความรู้สึกของผมคือ นี่ยังคงเป็นการผจญภัย และสำหรับบางคนที่มีความสามารถและฝึกซ้อมอย่างหนัก ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน และอยู่นอกเรดาร์ของแบรนด์การสนับสนุนต่างๆ ก็สามารถทำได้
อีกอย่างคือ สิ่งที่เป็นเรื่องส่วนตัวมากขึ้นสำหรับผมคือ ผมรู้จักกับ Vincent Brouillard จำได้ตอนที่เขายังอยู่ที่โรงเรียน และได้รับจ้างจากหุ้นส่วนของผมอย่าง Jean-Luc Diard และ Christophe Aubonnet
Vincent Brouillard เป็นคนที่มุ่งมั่นและ Introvert ดังนั้นครั้งนี้สำหรับกีฬานี้ เขาเป็นคนที่เงียบแต่แข็งแกร่งมาก ที่ผ่านมาเรารู้ว่าเขาได้แข่งไตรกีฬา จักรยาน และแข่งขันเทรลบ้าง แต่เขาเป็นคนที่อยู่ในสหรัฐฯ และขี่จักรยานไป 300 ไมล์ เพื่อไปหาเพื่อน เขาเป็นคนที่มีการผจญภัยต่างๆ เป็นคนที่มีทัศนคติแบบคนที่อยู่กับธรรมชาติอย่างภูเขา ซึ่งบางครั้งก็อยากอยู่คนเดียว และพร้อมที่ก้าวไปผจญภัยเป็นเวลานาน
ดังนั้นจึงเป็นการแข่งขันที่เป็นธรรมชาติมาก และการได้เห็นคนที่เรารู้จักเป็นเวลา 7 ปีคว้าแชมป์ เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก