วันนี้ (3 มีนาคม) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่มีเสียงร้องเรียนของประชาชนถึงการใช้บริการสายด่วน สปสช. 1330 ที่ไม่สามารถติดต่อได้ รวมถึงการจับคู่หน่วยบริการในการเข้าสู่ระบบ Home Isolation นั้น สปสช. ขอเรียนว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่สายด่วนของ สปสช. 1330 และอาสาสมัครที่ร่วมรับสายทุกคนรวมจำนวนกว่า 400 คน ต่างทำงานอย่างหนักและแข่งขันกับจำนวนสายที่กระหน่ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ด้วยตระหนักถึงความกังวลและทุกข์ร้อนของประชาชนที่ติดเชื้อโควิด
จากข้อมูลสายด่วน สปสช. 1330 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ จนถึง 1 มีนาคม 2565 จำนวนการโทรเข้าสายด่วน สปสช. 1330 แต่ละวันยังคงอยู่ที่ระดับ 40,000-70,000 สาย เช่นเดียวกับช่องทาง Non Voice หรือสื่อสารผ่านไลน์ สปสช. และ Facebook สปสช. ก็เฉลี่ยวันละกว่า 9,000 รายเช่นกัน และเนื่องด้วยผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่า 2 หมื่นรายต่อวัน ทำให้วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา มีจำนวนสายโทรเข้ามากที่สุดสูงถึง 70,300 สาย และช่องทาง Non Voice หรือแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กกว่า 12,000 ราย ยอมรับว่าเป็นจำนวนเกินศักยภาพที่ระบบจะรองรับได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สปสช. ได้พยายามเร่งแก้ไขปัญหา นอกจากการระดมจิตอาสาเข้ามาช่วยรับสายเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังได้มีการประสานกับหน่วยงาน องค์กรต่างๆ มาร่วมรับสาย ด้วย อาทิ กองทัพไทย ธนาคารกรุงไทย วิทยาลัยพยาบาลในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) โดยทางบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด หรือ ดีแทค ร่วมสนับสนุนซิมการ์ดโทรศัพท์ให้จำนวนหนึ่ง และมีทีมจิตอาสาจากประชาชนกว่า 100 รายเข้าร่วมตอบคำถาม และรับเรื่องประสานงานจากผู้ติดเชื้อโควิด
นอกจากนี้ จากการให้สัมภาษณ์ในรายการ ‘เจาะลึก ทั่วไทย Inside Thailand’ นพ.จเด็จยังได้แนะนำถึงช่องทางอื่นๆ เพื่อเลี่ยงปัญหาการติดต่อผ่าน 1330 เช่น การแอดไลน์ มาที่ @nhso ซึ่งทุกวันนี้มีการติดต่อผ่านช่องทางนี้ประมาณ 8,000 คน
นพ.จเด็จเชื่อว่าอีกไม่นานมีโอกาสที่สายโทรเข้า 1330 จะแตะ 1 แสนได้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับตัวเลขผู้ป่วยที่สูงขึ้น และในวิกฤตที่การโทรเข้า 1330 มีวิกฤตนี้ จึงแนะนำว่า อันดับ 1 ให้แอดทางไลน์เป็นหลัก มาพิมพ์ข้อความไว้ได้ โดยเจ้าหน้าที่จะมาทยอยตอบให้ความช่วยเหลือ
ช่องทางแนะนำอันดับที่ 2 คือเว็บไซต์ www.nhso.go.th/home และทาง สปสช. จะปรับให้ทุกท่านเข้าสู่ระบบ ‘เจอ แจก จบ’ ทีมงานจึงพยายามประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในพื้นที่ความต้องการสูงอย่างกรุงเทพมหานคร เพื่อพาผู้ป่วยเข้าสู่ระบบดังกล่าวให้ได้มากที่สุด
“ตอนนี้ สปสช. กำลังเร่งกระบวนการดังกล่าว โดยในวันพรุ่งนี้จะมีหน่วยงานทหารมาช่วย 300 นาย จ้างพนักงานบริษัทคอลเซ็นเตอร์อีก 150 คน ส่วนอาสาสมัครยังเปิดรับอยู่เสมอผ่านหน้าเว็บไซต์ของ สปสช. โดยรวมพรุ่งนี้ (4 มีนาคม) ตั้งเป้าว่าจะมีทีมงานรับสายประมาณ 2,000 คน สิ่งเหล่านี้คือมาตรการที่เร่งปรับแก้เพื่อบรรเทาวิกฤตสายโทรเข้า 1330 ในส่วนนี้ของ สปสช.” นพ.จเด็จกล่าว
