วันนี้ (17 พฤศจิกายน) พัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้พิจารณาประเด็นการดูแลประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากกรณีปัญหาใบส่งตัวของหน่วยบริการระดับปฐมภูมิซึ่งอาจส่งผลกระทบให้ผู้ป่วยเข้าไม่ถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็น
พัฒนาระบุว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับสิทธิในการเข้ารับบริการของประชาชน จึงได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. ร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิดกับกรุงเทพมหานคร เพื่อจัดทำแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยที่สำคัญ ต้องไม่ให้ผู้ป่วยประสบความยุ่งยากในการขอใบส่งตัวจนเข้าไม่ถึงการรักษาพยาบาลที่จำเป็น และต้องคำนึงถึงความสะดวก ปลอดภัย และคุณภาพบริการของประชาชนเป็นหลัก
พัฒนากล่าวต่อไปว่า แนวทางที่อยู่ระหว่างการหารือเบื้องต้นคือ การให้หน่วยบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี สมุทรสาคร นครปฐม ปทุมธานี และสมุทรปราการ เข้ามาช่วยสนับสนุนการจัดบริการสุขภาพและดูแลประชาชนในพื้นที่รอยต่อ กทม. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ที่มุ่งให้ประชาชนไทยทุกคนได้เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
พร้อมกันนี้ ก็ให้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การลงทะเบียนหน่วยบริการประจำตามข้อบังคับของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอลงทะเบียนหน่วยบริการประจำ และการขอเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการประจำ พ.ศ. 2562 เพื่อให้สอดรับกับสภาพปัญหาปัจจุบัน โดยให้ประชาชนสิทธิบัตรทองที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ตำบล หรืออำเภอรอยต่อ แต่อยู่ในกรุงเทพฯ สามารถลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการต่างๆ ตามที่สะดวกและมีความจำเป็นได้
“หลักการสำคัญคือ ต้องไม่ให้ประชาชนสิทธิบัตรทองรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการ ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกสัญญาหรือการปรับระบบต่างๆ ต้องออกแบบทางเลือกใหม่ที่ประชาชนเข้าถึงได้จริง สะดวก และมีคุณภาพ เพื่อให้ประชาชนเขตเมืองได้รับบริการสุขภาพที่เหมาะสม” พัฒนากล่าว


