วันนี้ (26 มกราคม) วสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มีความเห็นต่อคดีเยาวชนก่อเหตุทำร้ายร่างกายและฆ่า บัวผัน ตันสุ หรือ ป้าบัวผัน ซึ่งต่อมาปรากฏว่า ปัญญา คงคำแสน หรือ ลุงเปี๊ยก สามีของผู้ตายถูกกระทำทรมานและบังคับข่มขู่เพื่อให้รับสารภาพว่าก่อเหตุ ว่าเป็นการละเมิดต่อสิทธิในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา อันเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาหรือจำเลย
วสันต์ระบุว่า ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 24 มกราคม 2567 เรื่อง ขอให้ตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ถึงอัยการสูงสุด และประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เข้าองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 และกำหนดมาตรการฟื้นฟูเยียวยาความเสียหายทั้งด้านร่างกายและจิตใจให้แก่ผู้เสียหายแล้ว
ขณะเดียวกัน กสม. มีความห่วงกังวลกรณีที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์และเพจต่างๆ ได้เผยแพร่ภาพที่เป็นการเปิดเผยอัตลักษณ์ ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของเยาวชนผู้ก่อเหตุและครอบครัวอย่างแพร่หลาย อันกระทบต่อสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศชื่อเสียง และครอบครัว ตามที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 32 ประกอบพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
ทั้งยังขัดต่อหลักอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ที่ระบุว่า เด็กมีสิทธิที่จะได้รับความเคารพในความเป็นส่วนตัวในทุกขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม และแม้แต่ในกระบวนการชั้นพิจารณาก็สมควรจะต้องหลีกเลี่ยงการแสดงตัวเด็กต่อสาธารณชน โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับรูปพรรณสัณฐานและชื่อของเด็ก