เลขาธิการ กกต. เผยสัปดาห์หน้าชัดเจนเรื่องสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ ขอศึกษา ยืนยันไม่มีธงให้ใบแดงผู้สมัครคนใด

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงเรื่องการสืบสวนไต่สวนข้อร้องเรียนต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้งว่า

วันนี้ได้มีการประชุมชี้แจงคณะอนุกรรมการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนต่างๆ ในการกลั่นกรองสำนวนการสืบสวนไต่สวนพร้อมทำความเห็นส่งไปยังคณะกรรมการ กกต. ในการวินิจฉัยและออกคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือให้ใบแดง หรือทำความเห็นส่งไปยังศาลในกรณีต่างๆ ตามเนื้อหาหรือพยานหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในสำนวนการสืบสวนไต่สวน

ดังนั้นข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏเป็นกระแสข่าวว่า กกต. เตรียมจะพิจารณาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งจำนวน 117 เขตเลือกตั้งนั้นไม่เป็นความจริง เพราะกระบวนการสืบสวนไต่สวนนั้นอยู่ที่พยานหลักฐานและอยู่ในคำร้องนั้นเมื่อมีการไต่สวนและรวบรวมพยานหลักฐานแล้วจึงจะวินิจฉัยได้

ทั้งนี้จะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องมีการประชุมชี้แจงเกี่ยวกับระเบียบเรื่องการสืบสวนไต่สวนและการวินิจฉัยตามระเบียบใหม่ เนื่องจากขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนอยู่ทั้งหมด 264 เรื่อง ซึ่งยังไม่เป็นสำนวน ส่วนที่มีคำสั่งรับคำร้องไปแล้ว 142 เรื่อง และอยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐานว่ามีมูลหรือไม่จำนวน 117 เรื่อง หากมีมูล กกต. ก็จะสั่งรับไว้เป็นเรื่องคัดค้าน

พ.ต.อ. จรุงวิทย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระเเสข่าวสูตรการคำนวณ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์นั้นยืนยันว่า กกต. ยังไม่มีมติเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด แต่คาดว่าจะมีความชัดเจนในสัปดาห์นี้ เพราะทราบว่ามีการเรียกร้องให้ กกต. พิจารณาเกี่ยวกับสูตรการคำนวณต่างๆ ซึ่งจริงๆ แล้วการคำนวณ ส.ส. แบบปาร์ตี้ลิสต์มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและใน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.

อย่างไรก็ตาม การคำนวณต่างๆ นี้จะต้องมีต้นแบบมาจากที่หนึ่งที่ใดบ้างก่อนจะนำมาเขียนไว้เป็นกฎหมาย ดังนั้น กกต. เตรียมจะรวบรวมและนำมาศึกษาก่อนนำมาตอบให้สื่อมวลชนทราบต่อไป

ส่วนมีความจำเป็นที่จะต้องเชิญคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญมาให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องคณิตศาสตร์ที่นำมาเขียนไว้เป็นกฎหมาย ซึ่งปกติแล้วการเขียนกฎหมายในลักษณะนี้จะต้องมีต้นแบบ และอาจจะต้องสอบถามไปถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ด้วยว่า ในขณะที่ร่างมาตราที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มามีต้นร่าง หรือมีแบบอย่างไร เพราะการตีความเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามจะต้องชี้แจงขั้นตอนเหล่านี้ให้กับพรรคการเมืองด้วยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับมติของ กกต.

ส่วนที่พรรคการเมืองพยายามกดดันโดยกางรัฐธรรมนูญในมาตรา 128 ระบุว่า การคำนวณจะต้องเป็นไปตามมาตรา 128 เท่านั้นส่วนตัวมองว่า กฎหมายก็ต้องมีเจตนารมณ์ของมันอยู่แล้ว ดังนั้นยืนยันว่า ไม่มีความกดดันใดๆ เพราะการตีความกฎหมายเป็นไปตามเจตนารมณ์อยู่แล้วไม่สามารถไปบิดเบือนได้

พ.ต.อ. จรุงวิทย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการเข้าชื่อยื่นถอดถอน กกต. ว่า กรณีดังกล่าวก็เป็นสิทธิที่สามารถดำเนินการได้ แต่ยืนยัน กกต. ได้ชี้แจงไปทุกกรณีแล้วว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ส่วนที่ถูกมองว่า กกต. ทำงานไม่โปร่งใสนั้นยืนยันว่า ในกระบวนการต่างที่เป็นข้อสงสัยทาง กกต. ได้มีการเปิดเผยทุกประการ เช่น กระบวนการคัดแยกบัตรเลือกตั้งก็ตอบไปอย่างชัดเจน แต่เนื่องจากมีเรื่องที่จะต้องตอบและชี้แจงเป็นจำนวนมาก กกต. จึงต้องทำเอกสารข่าวชี้แจง ดังนั้นขอให้ฟังเหตุผลบ้าง ทั้งนี้ไม่ได้มองว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการดิสเครดิต กกต. แต่ขึ้นอยู่กับสังคมมองอย่างไร แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องของเหตุและผลมากกว่า เพราะสังคมประชาธิปไตยต้องมีเหตุผล

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า