×

‘Wisdom Worker’ แรงงานยุคใหม่ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ และความฉลาดทางอารมณ์

25.07.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

2 mins read
  • ไม่เพียงแต่การคิดอย่างมีเหตุผล แรงงานกลุ่มใหม่ยังใช้ความสร้างสรรค์ ความเข้าใจอันรวดเร็ว และความฉลาดทางอารมณ์จนเรียกว่าเป็น Wisdom Worker หรือแรงงานปัญญา
  • “หากเนื้อหาคือทองคำ ธุรกิจต่างๆ ต้องลงทุนกับนักแปรธาตุยุคใหม่อย่าง Wisdom Worker” โรเบิร์ต โรส ผู้ก่อตั้ง The Content Advisory แสดงความคิดเห็น

     Knowledge Worker หรือที่เรียกคร่าวๆ ว่า  ‘แรงงานความรู้’ เริ่มเป็นศัพท์ที่ถูกใช้มาตั้งแต่ปี 1959 เพื่อเรียกคนทำงานที่ใช้องค์ความรู้เป็นทุน และเคยมีการคาดการณ์เอาไว้ว่า แรงงานเหล่านี้จะเข้ามาครองตลาดในศตวรรษที่ 21 แต่ทว่าความท้าทายใหม่ที่คนกลุ่มนี้ต้องเผชิญคือการพัฒนาของเทคโนโลยีที่รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI

     นายแพทย์ มาร์ก ริดินเจอร์ (Mark Ridinger) เขียนบทความถึงประเด็นนี้ผ่าน The Huffington Post ว่า จะมีแรงงานกลุ่มใหม่ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และเตรียมมาครองตำแหน่งแทนบรรดา Knowledge Worker ด้วยความสามารถที่ไม่เพียงแต่การคิดอย่างมีเหตุผล แรงงานกลุ่มใหม่ยังใช้ความสร้างสรรค์ ความเข้าใจอันรวดเร็ว และความฉลาดทางอารมณ์ จนเรียกว่าเป็น Wisdom Worker หรือแรงงานปัญญา ที่นำเอาความสามารถต่างๆ ของมนุษย์มาผสมผสานกันในทุกมิติ

     ด้วยความที่ปัจจุบัน เครื่องจักรยังไม่สามารถจินตนาการ คิดวิธีแก้ปัญหา หรือสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์และบริการได้ ท่ามกลางยุคที่บรรดาผู้ประกอบการที่มีหน้าที่เสนอความคิดของพวกเขาให้นักลงทุนเข้าใจ สิ่งที่มีความจำเป็นคือ ความรู้ความเข้าใจ (Cognition) ความเข้าใจในเชิงสร้างสรรค์ (Creative Insight) และความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) อันเป็นความสามารถที่ทำให้มนุษย์ยังเหนือกว่าขีดความสามารถของหุ่นยนต์

     แต่ยุคสมัยของ Wisdom Worker อาจยังไม่ได้มาถึงอย่างเต็มตัว โรเบิร์ต โรส (Robert Rose) ผู้ก่อตั้ง The Content Advisory แสดงความคิดเห็นว่า แม้ยุคปฏิวัติอินเทอร์เน็ตจะผ่านมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม นักการตลาดหลายคนก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นกรอบมุมมองการพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจเดิมๆ แม้จะมีความสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่เปิดทางเลือกใหม่ๆ แต่นักการตลาดยังคำนึงถึงคำถามที่ว่าบรรดาโอกาสใหม่ๆ เหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรที่เราทำได้บ้าง

     หรือง่ายๆ การเปลี่ยนจาก Knowledge Worker สู่ Wisdom Worker จะเป็นไปได้อย่างไร

     เขาให้เหตุผลว่า เมื่อมองดูเนื้อหารอบๆ ตัว ด้วยความที่มันผลิตออกมาได้สะดวกมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ ยังมองว่าคอนเทนต์เป็นเพียงแค่ชิ้นส่วนหนึ่งที่สร้างประสิทธิภาพได้มากขึ้นหากวัดผลจากจำนวนการผลิต หรือเพียงแค่มองว่า เทคโนโลยีคือวิธีแห่งการทำให้เนื้อหาเป็นของขาย “หากเนื้อหาคือทองคำแล้ว ธุรกิจต่างๆ ต้องลงทุนกับนักแปรธาตุยุคใหม่อย่าง Wisdom Worker” โรสกล่าว

     ในขณะที่ พาวัน อาโรรา ผู้อำนวยการฝ่ายเนื้อหาประจำ IBM Watson มองว่า “ปัญญาประดิษฐ์อาจเป็นเครื่องจักร แต่เนื้อหาคือเชื้อเพลิง”

     ผู้ก่อตั้ง The Content Advisory กล่าวอีกว่า นักการตลาดและคนสร้างเนื้อหาต้องช่วยผลักดันกลยุทธ์ที่ต่อยอดอนาคต นำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับความคิดสร้างสรรค์ ความรู้ความเข้าใจ และความฉลาดทางอารมณ์ เพื่อพาบริษัทไปสู่การเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งใหม่และเจริญเติบโตได้

 

ภาพประกอบ: Thiencharas.w

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE



Latest Stories

X
Close Advertising